วันนี้ ( 2 มี.ค.2567 ) นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า หลังจากเดินทางไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) ระหว่างวันที่ 29 ก.พ.-2 มี.ค. เพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก สมัยสามัญ ครั้งที่ 13 (World Trade Organization Ministerial Conference 13: MC13)
นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (กต.)
นายจักรพงษ์ กล่าวว่า ยูเออี ถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยในภูมิภาคนี้ มีมูลค่าการขายที่ 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่ามีความสำคัญที่สุดในภูมิภาคนี้ และการเดินทางมาในครั้งนี้เป้าหมายหลัก คือการเจรจา FTA ที่ทางการไทยต้องการจะมีการเจรจาความตกลงทาง FTA กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุน ระหว่างกันให้มากขึ้น ซึ่งช่วยให้การค้าของไทยเพิ่มขึ้นมากกว่า19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ปี 2566 มีนักท่องเที่ยวจากยูเออี มาประเทศไทยเกือบ 200,000 คน หากเทียบกับจำนวนประชากรและมี direct flight ต่อวันประมาณ 5 ไฟล์ท ถือว่าเป็นฮับหนึ่งของภูมิภาคนี้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่ประกาศไปในเรื่องของ “AVIATION HUB” ซึ่งหากไทยเป็น Aviation Hub ได้ในภูมิภาคได้ จะสามารถเชื่อมโยงกับ ยูเออีมากขึ้น ดังนั้นจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับภาคเอกชนของไทยที่จะทำธุรกิจในโซนนี้
นายจักรพงษ์ ยืนยันว่าวีซาฟรีสำหรับคนไทย ที่จะเข้ายูเออี เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา เพราะเป็นเป้าหมายหลักของรัฐบาลอยู่แล้วในการเพิ่ม Power ให้กับพาสปอร์ตของไทย ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการหยิบยกขึ้นมาคุยกับทาง UAE เพื่อที่จะได้มีการเปิดวีซ่าฟรีอย่างเป็นการถาวรซึ่งกันและกัน แต่ยอมรับว่าต้องใช้เวลา เพราะต้องมีการดูรายละเอียดในหลาย ๆ เรื่องซึ่งต้องมีการคุยกันตลอด
อ่านข่าวอื่นๆ:
ส.อ.ท. กังวลสินค้าราคาถูกบุกตลาดไทย กระทบยอดขายวูบ 30 %
ตลาดรถมือสองแอฟริกาใต้ บูม “พาณิชย์” เห็นช่องส่งออกอุปกรณ์ยานยนต์