แต่มีคำถามว่า One Map คืออะไร ?
ว่าที่ ร.ต.พีรพล มั่นจิตต์ ผู้อำนวยกองที่ดินของรัฐ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เขียนไว้ในเว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) ระบุว่า ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) เพื่อนำไปสู่เอกภาพในการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศ
การปรับปรุงแผนที่ One Map เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ตามมาตรา 10 (7) แห่ง พ.ร.บ.คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ พ.ศ.2562 ประกอบมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.2561 และ วันที่ 24 เม.ย.2562
เป็นโครงการที่เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อหน่วยงานของรัฐและประชาชน
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากโครงการ One Map คือช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัยของประชาชนได้ ดังนี้
- ลดปัญหาการทับซ้อนกันของที่ดินของรัฐแต่ละประเภทลงได้ โดยพบว่าภายหลังการปรับปรุงพื้นที่กลุ่มที่ 1 จำนวน 11 จังหวัด มีพื้นที่ลดลงจำนวน 1,482,925.45 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 43.94 พื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด มีพื้นที่ลดลงจำนวน 16,910,421.03 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 47.15 และพื้นที่กลุ่มที่ 3 จำนวน 11 จังหวัด มีพื้นที่ลดลงจำนวน 48,755,909.23 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 54.21
- การที่โครงการ One Map ยึดกรอบแนวคิด "หนึ่งพื้นที่ หนึ่งหน่วยงานรับผิดชอบ" (One Land One Law) มีผลดี ทำให้การบริหารจัดการที่ดินของรัฐมีเอกภาพ มีหน่วยงานรับผิดชอบชัดเจน การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งทำให้ประชาชนได้ทราบถึงแนวเขตที่ดินของรัฐ และหน่วยงานที่รับผิดชอบอย่างชัดเจน
- ส่งผลให้ประเทศไทยมีแนวเขตที่ดินของรัฐที่ถูกต้อง ทันสมัย อยู่บนพื้นฐานแผนที่มาตราส่วน 1 : 4000 ลดความซ้ำซ้อนในการใช้จ่ายงบประมาณ และบุคลากรในการดูแลรักษา คุ้มครองป้องกันที่ดินของรัฐ
- เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน หรือจัดที่ดินให้กับประชาชน หรืออนุญาตให้ประชาชนใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐ สามารถสอบทานข้อมูลได้ง่าย เกิดความสะดวก รวดเร็วในการให้บริการกับประชาชน
- ประชาชนทราบถึงขอบเขตที่ดินของรัฐที่ชัดเจน สามารถตรวจสอบได้สะดวก ส่งผลให้การทำประโยชน์ในที่ดิน หรือการใช้ที่ดินได้เป็นไปอย่างถูกต้องโดยไม่รุกล้ำที่ดินของรัฐ ทำให้มีคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมที่ดีขึ้น
- ลดปัญหาข้อพิพาท หรือความขัดแย้งเรื่องแนวเขตที่ดินระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชน หากเกิดการโต้แย้งสิทธิ สามารถเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายบัญญัติ หรือตามที่ คทช. กำหนด
- สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนได้ว่า การดำเนินโครงการ One Map จะไม่มีการลิดรอนสิทธิ หรือกระทบสิทธิของประชาชนที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมาย และยึดหลักการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2565
เมื่อคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบผลการดำเนินการ One Map แล้ว หน่วยงานที่มีที่ดินของรัฐอยู่ในความรับผิดชอบจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี ในขั้นตอนดังกล่าว หน่วยงานของรัฐ จะต้องรับฟังความเห็นของประชาชน ซึ่งเป็นไปตามหลักการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทำให้การบริหารจัดการที่ดินของรัฐเกิดความยั่งยืนต่อไป
13 หลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
-
ป่าสงวนแห่งชาติอยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ กำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติตามขอบเขตในแผนที่แนบท้ายกฎกระทรวง ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มีทั้งหมด 1,221 ป่า ป่าไม้ถาวรตามมติ ครม. กำหนดเป็นป่าไม้ถาวรโดยมติ ครม. กรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีหน้าที่ในการนำเสนอ ครม. มีทั้งหมด 1,044 ป่า พิจารณาดังนี้
1.1 ป่าไม้ถาวรที่ ครม.มีมติกำหนดให้เป็นพื้นที่ป่าไม้ตามแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติให้ใช้แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติที่มีการประกาศตามกฎหมายเป็นหลัก
คำอธิบาย กรณีหลักเกณฑ์ที่ 1.1 มีการกำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติตามแผนที่แนบท้ายกฎกระทรวงไว้แล้ว ครม.จึงมีมติกำหนดป่าไม้ถาวรจำนวน 156 ป่า (ตามภาคผนวกหลักเกณฑ์ ที่ 1.1) ให้เป็นพื้นที่ป่าไม้ตามแนวเขตป่าสงวนแห่งชาติที่มีการประกาศตามกฎหมาย ดังนั้น แนวเขตที่ดินของรัฐ (ONE MAP) คือ แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ
ภาพประกอบข่าว : เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
1.2 ป่าสงวนแห่งชาติที่มีวัตถุประสงค์ประกาศตามแนวเขตป่าไม้ถาวรทั้งแปลงให้ใช้แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติที่มีการประกาศตามกฎหมายเป็นหลัก
คำอธิบาย เป็นกรณีกรมป่าไม้เร่งรัดกำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ตามนโยบายของรัฐบาลในขณะนั้น จึงได้นำป่าไม้ถาวรตามมติ ครม.ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่ป่าไม้ส่งมอบให้กรมป่าไม้ดำเนินการสงวนต่อไป กรมป่าไม้จึงได้นำป่าไม้ถาวรตามมติ ครม.ดังกล่าว ไปกำหนดเป็นป่าสงวนแห่งชาติตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 โดยไม่มีการรังวัด จำนวน 115 ป่า (ตามภาคผนวกหลักเกณฑ์ที่ 1.2) ดังนั้น แนวเขตที่ดินของรัฐ (ONE MAP) คือ แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ
ภาพประกอบข่าว : เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
1.3 ป่าไม้ถาวรตามมติ ครม.และป่าสงวนแห่งชาติที่ไม่มีวัตถุประสงค์ให้ใช้แนวเขตเดียวกัน ให้ใช้แนวเขตตามพื้นที่ป่านั้นๆ
คำอธิบาย ป่าไม้ถาวรตามมติ ครม.ที่นอกเหนือบัญชี (ตามภาคผนวกหลักเกณฑ์ที่ 1.1 และ 1.2) ทับซ้อนกับป่าสงวนแห่งชาติที่นอกเหนือบัญชี (ตามภาคผนวกหลักเกณฑ์ที่ 1.1 และ 1.2) ให้ใช้แนวเขตตามพื้นที่ป่านั้นๆ
แนวเขตที่ดินของรัฐ (ONE MAP) คือ แนวเขตที่โตกว่าระหว่างป่าไม้ถาวรตามมติ ครม.กับป่าสงวนแห่งชาติ
- ป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนกับอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
- ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคุ้มครอง และพื้นที่ในความรับผิดชอบของกรม ป่าไม้นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติที่มีแนวเขตชัดเจน ทับซ้อนเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ให้ใช้แนวเขตตามกฎหมายของแต่ละหน่วยงาน
- ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ทับซ้อนกับป่าชายเลนตามมติคณะรัฐมนตรี
- ป่าสงวนแห่งชาติทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.)
- อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ที่ทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดิน
- ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคุ้มครอง และพื้นที่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติที่มีแนวเขตชัดเจน อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ทับซ้อนกับนิคมสร้างตนเอง หรือนิคมสหกรณ์
- นิคมสร้างตนเอง นิคมสหกรณ์ทับซ้อน เขตปฎิรูปที่ดิน และนิคมสร้างตนเอง นิคมสหกรณ์ที่ยังไม่มีกฎหมายกำหนดพื้นที่
- ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคุ้มครอง และพื้นที่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติที่มีแนวเขตชัดเจน อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ทับซ้อนกับที่ราชพัสดุ
- ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคุ้มครอง และพื้นที่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติที่มีแนวเขตชัดเจน อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ทับซ้อนกับที่สาธารณประโยชน์ที่มีการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง (น.ส.ล.) ไว้แล้ว
- แนวเขตที่ดินของรัฐที่มีการกำหนดโดยใช้แนวธรรมชาติหรือแนวเขตตามสิ่งก่อสร้าง ให้ใช้แนวธรรมชาติหรือสิ่งก่อสร้างที่ปรากฏลวดลายในแผนที่ภาพถ่าย ทางอากาศ/ภาพถ่ายดาวเทียมปีที่กำหนดแนวเขต
- กรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่สามารถหาข้อยุติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ได้ ให้สรุปเรื่องราวพร้อมรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เสนอคณะอนุกรรมการและคณะกรรมการพิจารณาเพื่อให้ได้ข้อยุติตามลำดับ
- ให้คณะอนุกรรมการระดับจังหวัดรวบรวมข้อมูลระวางแผนที่ของกรมที่ดินที่มีการรับรอง แนวเขต ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าไม้ถาวร ป่าชายเลน อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้น สำหรับใช้ในการดำเนินการภายหลัง และ ให้คณะทำงานการแก้ไขปัญหาการทับซ้อนของพื้นที่ป่าไม้และเขตปฏิรูปที่ดินระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานที่ได้ข้อยุติจากคณะทำงานฯ ส่งให้คณะกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.), สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.)