แผนกู้เรือ
เริ่มแล้ว ที่กองทัพเรือไทย-กองทัพเรือสหรัฐฯ เริ่มปฏิบัติภารกิจค้นหา และปลดวัตถุอันตรายบนเรือหลวงสุโขทัย จากเหตุการณ์อับปาง ในทะเลอ่าวไทย ระดับความลึก 50 เมตร ลูกเรือเสียชีวิต 24 นาย สูญหาย 5 นาย
ภารกิจนี้ เป็นการกู้เรือแบบจำกัด (Light Salvage) เพื่อค้นหาร่างลูกเรือสูญหาย, สำรวจหลักฐานใต้น้ำ เพื่อสอบสวนเหตุการณ์อับปาง จัดการทำลายยุทโธปกรณ์บนเรือหลวงสุโขทัย และนำยุทโธปกรณ์บางอย่างกลับขึ้นมา
แต่หากย้อนกลับไป ตั้งแต่เหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2565 ผ่านมา 1 ปี และอีก 2 เดือน ยังไม่เคยมีรายงานผลการสอบสวนสาเหตุ หรือขั้นตอนการปฏิบัติอพยพ หรือขั้นตอนการปฏิบัติการในการช่วยเหลือลูกเรือว่า เป็นไปตามแผนอพยพ แผนปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉินหรือไม่
แต่ระหว่างที่ยังไม่มีข้อมูลเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ในวงการทหารเรือ เริ่มส่งเสียงอยากให้มีความเป็นธรรม มีผู้รับผิดชอบ หากขั้นตอนทั้งหมด เกิดจากความผิดพลาดกลายเป็นความเสี่ยงที่ป้องกันไม่ได้
อ่านข่าว :ทร.คาดเหตุน้ำเข้าทำ รล.สุโขทัยอับปาง ใช้งบกู้เรือ 200 ล้านบาท
เพราะนี่คือ เรือหลวงสุโขทัย เรือคอร์เวต ชั้นรัตนโกสินทร์ 1 ใน 5 ลำเรือ ที่มีศักยภาพสูงที่สุดของกองทัพเรือไทย มีความสามารถด้านการรบทั้ง 3 มิติ คือ ต่อสู้ได้ทางอากาศ, บนผิวน้ำ และใต้น้ำ
ย้อนกลับไปดูไทม์ไลน์นาทีต่อนาที 16 ชั่วโมง เกิดเหตุเรืออับปาง
วันที่ 17 ธ.ค.2565 เรือหลวงสุโขทัย ออกจากท่าเรือฐานทัพสัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อร่วมงานฉลองครบรอบ 100 ปี กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ที่ศาลหาดทรายรี จ.ชุมพร ระหว่างเส้นทางเดินเรือ คลื่นลมแรง น้ำทะเลตีเข้าท้ายเรือ ตลอดเส้นทาง
วันที่ 18 ธ.ค.2565
- 09.50 น. น.ท.จตุพร ทัพเรือภาค 1 ขอนำ ร.ล.กระบุรี ร.ล.สุโขทัย เข้าเทียบท่าของท่าเรือประจวบ เพื่อส่งทหารจำนวนหนึ่งขึ้นรถบัสขนส่งไป จ.ชุมพร เนื่องจากบริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด มีท่าเรือรองรับ
- 11.53 น. ผู้บังคับการ ร.ล.กระบุรี แจ้งขอเข้าท่าเทียบเรือ
- 12.11 น. ร.ล.สุโขทัยติดต่อแผนกบริการท่าฯ ขอให้ถ่ายภาพสภาพคลื่นลมในท่าเรือไปให้ เจ้าหน้าที่แผนกบริการได้ดำเนินการถ่ายคลิปวิดีโอสั้นส่งไปให้ รวมถึงแนะนำให้เรือ ทิ้งสมอในพื้นที่จอดเรือ (Basin) ได้
- 16.00 น. ร.ล.กระบุรี แจ้งทางวิทยุขอเข้าเทียบท่า และเทียบท่าเสร็จสิ้นเวลา
- 16.46 น. หน.แผนกบริการท่าฯ ได้รับแจ้งจาก ร.ล.สุโขทัย ขอนำเรือกลับเข้าเทียบท่า เนื่องจากน้ำเข้าเรือ เครื่องยนต์มีปัญหา
หลังจากนั้นใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ร.ล.สุโขทัยได้แจ้งขอรับการสนับสนุนส่งเรือลากจูง (TUG) ทันทีที่ได้รับแจ้งท่าเรือประจวบฯ ได้ประสานเรือลากจูง (TUG) พร้อมให้การสนับสนุน
- 17.16 น. น้ำทะเลเข้า ร.ล.สุโขทัย
- 18.17 น. เครื่องยนต์ดับ เครื่องไฟฟ้าดับ ระบบการสื่อสารล่ม เนื่องจากน้ำเข้าเรือ เรือเอียง เครื่องยนต์ และอุปกรณ์สื่อสารใช้งานไม่ได้แล้ว
- 19.00 น. ได้รับข้อมูลมีการขอความช่วยเหลือจาก ร.ล.สุโขทัย พิกัดห่างจากฝั่ง 16 ไมล์ทะเล พื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมประสานขอความช่วยเหลือ
- 20.00 น. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงสาเหตุ เรือหลวงสุโขทัยประสบปัญหาจากเครื่องจักรใหญ่ กับเครื่องจักรช่วยขัดข้อง น้ำไหลย้อนกลับเข้าไปในตัวเรือ ทำให้เรือเอียง 60 องศา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งสูบน้ำในตัวเรือออก แต่หากไม่สามารถพยุงเรือไว้ได้ อาจจะต้องสละเรือ ขณะที่กำลังพลบางส่วน ถูกลำเลียงขึ้นฝั่งเรียบร้อยแล้ว
- 21.24 น.ได้รับรายงาน ณ ขณะนั้น ว่า ลูกเรือ ร.ล.สุโขทัย 105 นาย ขึ้นแพชูชีพหมดแล้ว รอการช่วยเหลือจาก ร.ล.ภูมิพล และ ร.ล.อ่างทอง
- 21.36 น.คลื่นลมแรง ขณะ ร.ล.กระบุรี เข้าเทียบ ร.ล.สุโขทัย เพื่อเร่งช่วยเหลือกำลังพล ร.ล.สุโขทัย
- 22.14 น. ร.ล.กระบุรี ฝ่ากระแสคลื่นลม และพยายามเทียบเรือ
- 22.51 น. ร.ล.กระบุรี กำลังเทียบกับ ร.ล.สุโขทัย เพื่อลำเลียงกำลังพล 105 นาย แต่ยังทำไม่ได้ เพราะคลื่นลมแรงและสูงมาก
- 23.00 น. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า ร.ล.สุโขทัย มีอาการเอียง แต่ผนึกน้ำได้แล้ว ปริมาณน้ำภายในตัวเรือมีปริมาณคงที่
- 23.20 น. ร.ล.สุโขทัย เอียง 60 องศา กำลังพลยังอยู่บนเรือ ปลอดภัยดี และให้เกาะอยู่ที่ราวเรือ หากเคลื่อนย้าย ขณะคลื่นลมแรงสูง และยังคงรอเรือทัก (TUG) เข้ามาสนับสนุนการเคลื่อนย้าย
- 23.30 น. ร.ล.สุโขทัย อับปางจมลงใต้ผิวน้ำแล้ว เนื่องจากมีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก บริเวณที่แลตติจูด 11 องศา 00 ลิปดา เหนือลองจิจูด 099 องศา 53 ลิปดา ตะวันออก แบริ่ง 090 จากท่าเรือประจวบคีรีขันธ์ ระยะทางประมาณ 18 ไมล์ทะเล หลังพยายามที่จะเข้ากอบกู้สถานการณ์ แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากคลื่นลมที่ยังคงแรงมาก
วันที่ 19 ธ.ค.2565
- 00.12 น. ร.ล.สุโขทัย อาการเอียงและจมลง เป็นเวลาเดียวกันที่มีเรือลากจูงเอกชน จากท่าเรือบางสะพาน 2 ลำ และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่ง ร.ล.กระบุรี เรือน้ำมันและเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ช่วยเหลือกำลังพล
- 01.04 น. เฮลิปคอปเตอร์แบบ ซีฮอก 2 ลำ เดินทางมาถึง พร้อมปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล 8 แพ เรือต่าง ๆ ให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรี 47 นาย เรือลากจูง 4 นาย เรือน้ำมัน “ศรีวิชัย” จำนวน 20 นาย และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” จำนวน 2 นาย ยังคงมีกำลังพล 33 นาย ที่ลอยคออยู่ในทะเล
- 04.00 น. ร.ล.กระบุรี นำลูกเรือส่ง รพ.บางสะพาน
- 07.00 น. ร.ล.กระบุรี ออกเดินทางจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือ ร่วมกับ ร.ล.อ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier และเฮลิคอปเตอร์แบบ Seahawks ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหา กำลังพลทั้งหมดและเตรียมการกู้ ร.ล.สุโขทัย
- 08.00 น. พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ มียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 74 นาย จากทั้งหมด 105 นาย
อ่านข่าว : เริ่มแล้ว! "กู้เรือหลวงสุโขทัย" ทัพเรือไทย-สหรัฐฯ ร่วมปฏิบัติภารกิจ
กองทัพเรือเตรียมเปิดยื่นซองประมูลกู้ "รล.สุโขทัย" ต.ค.นี้
รายงานพิเศษ : “เรือหลวงสุโขทัย” ผลสอบลับ “ทำไมเรือล่ม”