วันนี้ (20 ก.พ.2567) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทระหว่างกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต่อการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า
ทาง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติในประเด็นนี้ ซึ่งเรื่องนี้มีแนวทางที่เรียกว่าวันแมพ คือการใช้แนวเขตที่ดินของรัฐมากำหนด และก่อนหน้านี้คือการนำแผนที่มาตราส่วนเดียวกันมาปรับให้เป็นแนวเขตเดียวกัน สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นที่เขาใหญ่ รอให้เจ้ากรมแผนที่ทหาร ซึ่งขณะนี้กำลังลงพื้นที่อยู่ได้ดำเนินการ
เมื่อถามว่าก่อนที่จะมีการปักหมุดต้องมีการหารือกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงทรัพย์ฯ ก่อนหรือไม่ นายจตุพร ระบุว่า ในส่วนของกระทรวงทรัพย์ฯ เขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีอยู่แล้ว แต่การที่หน่วยงานไหนจะเข้ามา ต้องมาคุยกันก่อน เช่นแนวระดับจังหวัด หรือคณะกรรมการปฏิรูปจังหวัด แต่ส่วนนี้เป็นเรื่องของจังหวัดตนไม่ขอก้าวล่วง และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วต้องมาคุยกัน เพราะมีอยู่ 3 เรื่องที่ต้องทำ คือเรื่องข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง และวิทยาศาสตร์ คือการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งเรามีอยู่แล้ว
- "บิ๊กป๊อด" นัดเคลียร์ "ธรรมนัส" ปมพิพาท ส.ป.ก.รุกป่าเขาใหญ่
- เด้ง 6 ส.ป.ก.โคราช เซ่นปมหมุดนิรนามรุกป่าเขาใหญ่
เมื่อถามว่าการที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถอดหมุดสามารถทำได้หรือไม่ นายจตุพร ระบุว่าสิ่งใดก็ตามที่อยู่ในเขตอุทยาน หากเข้าไปบุกรุก สามารถดำเนินการได้ ซึ่งถือเป็นเหตุที่มีความละเอียดอ่อน โดยป่าสงวนจะเป็นไข่ขาว อุทยานคือไข่แดง แต่จะเข้าขอไปตรวจสอบในรายละเอียดหากนายชัยวัฒน์ถูกแจ้งข้อกล่าวหา
ก่อนยืนยันว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของนายชัยวัฒน์หากอยู่ในพื้นที่อุทยานก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องรักษาไว้ อีกทั้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นมรดกโลก จึงต้องไปพิสูจน์ทราบ ว่าการที่เจ้าหน้าที่ไปปักหมุดสามารถทำได้เลยหรือไม่ และต้องไปดูขั้นตอนของสำนักงานปฏิรูปที่ดิน จะต้องเข้ามาอย่างไร ต้องไปดูภาพรวมทั้งหมด รายการที่จะเข้าไปปักแนวเขตอะไรก็แล้วแต่ มีระเบียบรองรับอยู่แล้ว ว่าจะต้องมีกำนันผู้ใหญ่บ้าน ขั้นตอนละเอียดอยู่ และเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นานที่จะหาข้อยุติในเรื่องนี้
นายจตุพร ระบุว่าสำหรับกรณีที่ นายชัยวัฒน์ มีการตั้งข้อสังเกต ว่าการปักหมุดบริเวณดังกล่าว มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นั้น ขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะทุกฝ่ายก็ทำตามกฎหมายของตัวเอง อยากให้รอคณะกรรมการเข้ามาดู ซึ่งเป็นเรื่องแนวเขตที่เราเห็นอยู่แล้วว่ามีปัญหา จึงจำเป็นต้องมีการแก้ไขแนวเขตที่ดินของรัฐ
อ่านข่าว : อุทยานฯ ลั่นไม่เสียป่าเขาใหญ่ รังวัดจุดหมุดนิรนาม ส.ป.ก.18 ก.พ.
ถ้านำที่ดินของรัฐในส่วนของราชการมาดู เป็นที่ดินเกินครึ่งหนึ่งของประเทศไทย ทุกฝ่ายมีมาตรฐานที่แตกต่างกันไป ที่เราเรียกว่าโฉนดที่ดิน 1 : 4,000 ก็สามารถนำมาเทียบเคียงกันได้หมด และเชื่อว่าไม่น่าจะมีเรื่องการเมืองมาอยู่เบื้องหลัง ส่วนจะมีใบสั่งให้ไปปักหมุดจุดนั้นหรือไม่ตนไม่ทราบ เพราะทั้ง 2 หน่วยงานยืนยันแผนที่ของตัวเอง ก็ต้องนำมาตรวจสอบ อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ถูก
ส่วนพื้นที่ที่ปักหมุดจะเตรียมแบ่งไว้ให้ประชาชนทำกินหรือไม่นั้นตนไม่ทราบเนื่องจากเป็นเรื่องของกระทรวงเกษตรฯ แต่ยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างอุดมสมบูรณ์
ส่วนจะคาดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกรมอุทยานหรือไม่นั้น นายจตุพรยืนยันว่ามีพระราชกฤษฎีกาแนวเขตอยู่ เป็นข้อกฎหมาย
อ่านข่าว : คาด 3 สัปดาห์รู้ผล ปมพิพาท ส.ป.ก. "รุกป่าเขาใหญ่"
ปลัด ทส. ยันให้ความเป็นธรรม "ชัยวัฒน์" ปมห้วยคมกฤต
นายจตุพร กล่าวถึงกรณีที่ นายชัยวัฒน์ ถูกสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. นำคำตัดสินค้างเก่าคดีก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน (ห้วยคมกฤต) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยมิชอบ ชี้ผิดวินัยร้ายแรง และส่งอัยการสูงสุดฟันผิดอาญา ว่า ทาง ป.ป.ช.ได้แจ้งเรื่องไปที่ต้นสังกัดของนายชัยวัฒน์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางต้นสังกัดก็จะส่งรายละเอียดมาให้สำนักปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่ ทั้งเรื่องการร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ และนายชัยวัฒน์ สามารถอุทธรณ์และร้องขอความเป็นธรรมกับทางกระทรวงได้ ซึ่งยอมรับว่าข้าราชการเรา โดนแบบนี้มาเยอะ ก็เปิดให้เขาร้องขอความเป็นธรรมและเสนอหลักฐานเข้ามา
"เราก็ต้องดูแลคนของเรา คนทำงานก็ต้องยอมรับว่า ต้องมีผิดบ้างถูกบ้าง แต่ถ้าผิดแล้วเป็นปัญหาเราก็ต้องดูแลพื้นเจ้าหน้าที่ของเรา เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานให้เขา ลูกน้องของผมทุกคนผมดูแลหมด และให้ความเป็นธรรมทุกคน"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด “ชัยวัฒน์” ปมห้วยคมกฤต ขีดเส้นลงโทษภายใน 30 วัน