วันที่ 17 ก.พ.2567 การแข่งขันแบดมินตันประเภททีมชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นเกมรอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมหญิง ทีมสาวไทยที่ผ่านเข้าถึงรอบนี้เป็นครั้งแรก พบกับ อินเดีย ที่ได้เข้าชิงหนแรกเช่นกัน
เปิดฉากที่ประเภทเดี่ยว มือ 1 ศุภนิดา เกตุทอง มือ 17 ของโลก เจองานหนักเมื่อต้องดวลกับ ปุสซารา สินธุ อดีตแชมป์โลกปี 2019 ที่ปัจจุบันรั้งมือ 11 โลก ซึ่ง "น้องเมซ้าย" ต้านทานความแกร่งของ สินธุ ไม่ไหว แพ้ไปขาดลอย 2 เกมรวด คะแนน 12-21 ทั้งสองเกม ให้ อินเดีย ขึ้นนำ ไทย 1-0 คู่
ต่อมาในประเภทคู่มือ 1 ไทยส่ง จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ รวินดา ประจงใจ มือ 10 ของโลก ลงดวลกับ เทสซ่า โจลลี่ และ กายาตรี โกปิจันท์ คู่มือ 23 ของโลก ซึ่งทั้งสองฝั่งสู้กันได้อย่างสูสี ก่อนที่คู่ "กิ๊ฟ-วิว" ของไทย จะพลาดท่าแพ้ไปอย่างหวุดหวิด 1-2 เกม คะแนน 16-21 , 21-18 และ 16-21 ส่งผลให้ ไทย ตามหลัง อินเดีย 0-2 คู่จะแพ้อีกไม่ได้แล้ว
ซึ่งในประเภทเดี่ยวมือ 2 "น้องครีม" บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ กู้หน้าให้กับทีมไทย เมื่อเอาชนะ อิชมิตา คาลิฮา ไปแบบไม่ต้องลุ้นเหนื่อย 2 เกมรวด คะแนน 21-11 และ 21-14 ให้ ไทย ไล่ อินเดีย มาเป็น 1-2 คู่
จากนั้นในประเภทคู่มือ 2 นันทน์กาญจน์ และ เบญญาภา 2 พี่น้อง "เอี่ยมสอาด" เอาชนะ ไปรยา คอนเจนบัม กับ ชรูติ มิชรา ไปขาดลอย 2 เกมรวด คะแนน 21-11 และ 21-9 ให้เกมกลับมาเสมอกันที่ 2-2 คู่ ต้องตัดสินผู้ชนในคู่สุดท้าย
และในประเภทเดี่ยวมือ 3 พรพิชชา เชย-กีวงศ์ เจอกับ แอนมอล คาร์บ ซึ่ง คาร์บ ดาวรุ่งพุ่งแรงของอินเดีย วัยเพียง 17 ปี โชว์ฟอร์มได้ดีกว่า จนทำให้ พรพิชชา เป็นฝ่ายแพ้ไป 14-21 และ 9-21 ส่งผลให้ อินเดีย เอาชนะ ไทย ไป 2-3 คู่ คว้าแชมป์รายการนี้ไปครองได้เป็นครั้งแรก
ขณะที่ ไทย แม้จะพลาดหวังตำแหน่งแชมป์ แต่เหรียญเงินที่ทำได้ถือเป็นผลงานดีที่สุดของทีมหญิงไทยในรายการนี้ หลังเคยทำได้ดีที่สุดคือการคว้าเหรียญทองแดง 2 สมัย ในปี 2016 และ 2020 ส่วนรายการต่อไปของทีมนักแบดมินตันไทย จะเริ่มตระเวนลงแข่งในทวีปยุโรป ประเดิมทัวร์นาเมนต์แรกที่ศึก เยอรมัน โอเพ่น รายการเวิลด์ทัวร์ 300 ที่จะเริ่มเปิดฉากวันที่ 27 ก.พ.นี้
อ่านข่าวอื่นๆ :
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอ เชลซี 1-1 บอลพรีเมียร์ลีก
ทีมชาติไทย รั้งอันดับ 101 โลก "ฟีฟ่า แรงกิ้ง" เดือน ก.พ.2024