วันนี้ (20 ม.ค.2567) พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เข้าร่วมประชุมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ก่อนแถลงผลการพิจารณาเอาผิดตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับการบังคับหรือทรมานให้นายปัญญา หรือ "ลุงเปี๊ยก" รับสารภาพในคดี "ป้าบัวผัน" ถูกเยาวชารุมทำร้ายจนเสียชีวิต
หลังจาก ผบ.ตร.สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้เวลา 3 วัน และขณะนี้ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีคลิปเสียงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศ บังคับให้นายปัญญา รับสารภาพในคดี "ป้าบัวผัน" ออกมาแล้ว
พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาว่า คดีนี้มีพยานน่าเชื่อว่าตำรวจ สภ.อรัญประเทศ 2 นาย คือ นายดาบตำรวจ และรองผู้กำกับฝ่ายสืบสวน สภ.อรัญประเทศ เข้าข่ายกระทำความผิดวินัยตำรวจตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และ 1 ใน 2 นายนี้น่าเชื่อว่าเข้าข่ายกระทำผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งตำรวจภูธรภาค 2 จะส่งสำนวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สืบสวน สอบสวนและรวบรวบพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 หรือกฎหมายอื่นใด ก็จะกล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดโดยเด็ดขาด
พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2
ผบช.ภ.2 กล่าวอีกว่า จากนี้พนักงานสอบสวนต้องรับคำร้องทุกข์ และเรียกนายดาบตำรวจมาแจ้งข้อกล่าวหา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามมาตรา 157 กรณีที่ใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายปัญญา แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนตำรวจทั้ง 2 นายยังให้การปฏิเสธ ซึ่งนายดาบตำรวจอ้างว่าไม่มีเจตนาใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายปัญญาตามที่ถูกกล่าวอ้าง แต่ชุดคณะกรรมการสอบสวนเชื่อว่ามีหลักฐานเพียงพอชี้ได้ว่าตำรวจนายดังกล่าวใช้ถุงคลุมศีรษะนายปัญญาจริง
สำหรับคดีความทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อเหตุในคดีฆาตกรรมนางบัวผัน และเกี่ยวข้องกับคดีที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่มเติม รวมแล้ว 7 คดี ตำรวจได้รับแจ้งความไว้ในขณะนี้ ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ก่อเหตุฆาตกรรมนางบัวผันที่มี 5 คน และกลุ่มตังค์ไม่ออกที่มี 12 คน
เมื่อตรวจสอบย้อนหลังทั้ง 7 คดีที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความ ทั้งคดีทำร้ายร่างกาย คดีล่วงละเมิดทางเพศ และคดีร่วมกันทำลายทรัพย์สินผู้อื่นให้ได้รับความเสียหาย โดยพบว่า 3 ใน 5 คนในคดีฆาตกรรมนางบัวผัน ร่วมกันก่อเหตุกับกลุ่มตังค์ไม่ออกด้วย ซึ่งทุกคดีพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดทั้งหมด
ส่วนการดำเนินคดีกับผู้ปกครองของกลุ่มเยาวชนผู้ก่อเหตุ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและเยาวชน จังหวัดสระแก้วได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเอาผิด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานคณะกรรมการร่วมกับ 5 สหวิชาชีพและพนักงานสอบสวน กองบังคับการอุทธรณ์ จ.สระแก้ว ร่วมพิจารณา ซึ่งยังต้องรอผลการตรวจสอบต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"บิ๊กต่อ" ลั่นวันนี้จบคดี "ป้าบัวผัน" ยันทำตรงไปตรงมา-ไม่มีอิทธิพล
20 ม.ค.รู้ผลสอบ "ตำรวจ" ปมถุงดำคลุมหัว "ลุงเปี๊ยก" บังคับสารภาพ
ผบช.ภ.2 สั่งสอบปมถุงดำคลุมหัว "ลุงเปี๊ยก" ขีดเส้น 3 วันรู้ผล