เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2567 สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า จำนวนประชากรของจีนลดลงต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ในปี 2023 โดยนับรวมเฉพาะมณฑล เขตปกครองตนเอง และเทศบาลต่างๆ 31 แห่งและไม่นับรวมฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน รวมถึงชาวต่างชาติที่อาศัยในแผ่นดินใหญ่ ยอดประชากรจีนอยู่ที่ 1,409.67 ล้านคน ลดลง 2.08 ล้านคนจากปลายปี 2022
ส่วนอัตราการเกิดตลอดทั้งปีอยู่ที่ 6.39% โดยมีเด็กเกิดใหม่ 9.02 ล้านคน ขณะที่อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 7.87% มีผู้เสียชีวิต 11.1 ล้านคน ส่งผลให้อัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรอยู่ที่ติดลบ 1.48%
ตัวเลขผู้เสียชีวิตในปี 2023 เพิ่มขึ้นจากปี 2022 กว่าเท่าตัว คาดว่าส่วนหนึ่งเกิดจากการยกเลิกมาตรการป้องกันโควิด-19 และเป็นอัตราการเสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่การปฏิวัติวัฒนธรรม 1974 ส่วนอัตราการเกิดลดลงเป็นปีที่ 7 ในปี 2023 และคิดเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของอัตราการเกิดในปี 2016 ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจและสังคมที่เรื้อรังในจีน
รัฐบาลจีนพยายามผลักดันมาตรการต่างๆ เพื่อยกระดับอัตราการเกิดให้มากขึ้น นับตั้งแต่ผ่อนคลายนโยบายลูกคนเดียวช่วงปี 2014-2016 ก่อนที่จะผลักดันนโยบายให้มีลูกคนที่ 3 เมื่อปี 2021 แต่แทบจะไม่ประสบความสำเร็จ
ขณะที่ชาวจีนจำนวนไม่น้อย ระบุว่า ไม่แปลกใจกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เนื่องจากมองว่าต่อให้รัฐบาลจะออกมาตรการเพื่อดึงดูดใจมากเพียงใด ก็ยังไม่เพียงพอในระยะยาว ประชาชนที่ไม่อยากมีลูกก็ไม่น่าจะยอมมีลูกเพียงเพราะมาตรการเหล่านี้ เพราะไม่ใช่สาเหตุต้นตอที่ทำให้ไม่อยากมีลูก
มาตรการที่รัฐบาลจีนใช้เพื่อแก้ไขปัญหาอัตราการเกิดต่ำ มีทั้งการลดภาษี การให้แม่ลาคลอดได้นานขึ้น หรือการช่วยเหลือให้เงินอุดหนุนด้านที่อยู่อาศัย แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่รัฐบาลในระดับท้องถิ่นจะบังคับใช้หรือสนับสนุนอย่างเต็มที่
อ่านข่าวอื่นๆ
"จีน" ออกโรงปราม "ไต้หวัน" หลังพรรค DPP ชนะเลือกตั้ง