วันนี้ (14 ม.ค.2567) ไล่ ชิง-เต๋อ จากพรรค DPP จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) เตรียมขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน หลังจากผลนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการชี้ ไล่ ชิง-เต๋อ ได้คะแนนเสียงแตะ 5,000,000 เสียง ทิ้งห่างคู่แข่งจากอีกสองพรรค ขณะที่ผู้สมัครจากพรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) และพรรคประชาชนไต้หวัน (TPP) ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้
ไล่ ชิง-เต๋อ รองประธานาธิบดีและว่าที่ผู้นำไต้หวันคนต่อไป ประกาศชัยชนะบริเวณด้านหน้าสำนักงานทีมหาเสียงพรรค DPP ในกรุงไทเป ท่ามกลางกลุ่มผู้สนับสนุนจำนวนหลายพันคน
ไล่ ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าชาวไต้หวันยืนหยัดต่อระบอบประชาธิปไตย
นอกจากนี้ยังย้ำว่ามีเพียงการเจรจาและการแลกเปลี่ยนเท่านั้นที่สามารถลดความเสี่ยงของความขัดแย้งได้ เพื่อบรรลุสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน โดยการเจรจาจะต้องตั้งอยู่บนหลักความเสมอภาคและประชาธิปไตย
ผลคะแนนเลือกประธานาธิบดี ไล่ได้คะแนนร้อยละ 40 หรือมากกว่า 5,500,000 เสียง ขณะที่ โหว โหย่ว-อี๋ จากพรรค KMT ได้คะแนนร้อยละ 33 ส่วนเคอ เหวิน-เจ๋อ ได้ไปร้อยละ 26
ชัยชนะในครั้งนี้เปิดทางให้พรรค DPP จะได้เป็นครองอำนาจอีก 1 สมัย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีพรรคการเมืองสามารถครองอำนาจบริหารได้เกิน 2 สมัย แต่ถึงแม้จะได้เก้าอี้ประธานาธิบดี แต่พรรค DPP กลับเสียพื้นที่เก้าอี้ในสภานิติบัญญัติ เนื่องจากสามารถรักษาที่นั่งให้สมาชิกได้เพียงแค่ 51 จากทั้งหมด 113 ที่นั่ง ขณะที่พรรค KMT ได้ไป 52 ที่นั่ง และพรรค TPP ได้ 8 ที่นั่ง เท่ากับว่า พรรครัฐบาลอย่าง DPP อาจจะเผชิญอุปสรรคในการผ่านร่างกฎหมายต่างๆ เว้นแต่จะไปหาเสียงจากนอกพรรคด้วยการเจรจากันมากขึ้น
แม้พรรค DPP จะได้เป็นรัฐบาลต่ออีก 4 ปี แต่เกมทางการเมืองของไต้หวันจะเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อมีตัวแปรสำคัญอย่างพรรค TPP ได้ครองพื้นที่ในสภามากขึ้น ซึ่งจะทำให้การขยับตัวของพรรค DPP อีก 4 ต่อจากนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :