วันนี้ (12 ม.ค.2567) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) เปิดโครงการเสวนาทางวิชาการ เรื่อง “ความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรต่อความมั่นคงของมนุษย์ในประเทศไทย” ที่มีผู้เข้าร่วมเสวนาประกอบด้วยผู้แทนจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารโลก วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นายวราวุธ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้ประเทศไทยอาจจะยังไม่ค่อยตื่นตัว ไม่ค่อยตื่นเต้น ไม่ค่อยตระหนักรู้ว่า ปัญหาโครงสร้างประชากรต่อความมั่นคงของมนุษย์ของประเทศไทยนั้น หนักหนาเพียงใด ซึ่งต้องขอขอบคุณปลัดพม. เพื่อนข้าราชการกระทรวงพม. ที่ทำให้รู้สึกว่านี่คือคลื่นลูกใหญ่ ที่มีความหนักหนาไม่แพ้ปัญหาอื่น ๆ
อ่านข่าว : ถอดรหัส "เศรษฐา" สู่คำขวัญวันเด็กปี 2567 สะท้อนตัวตน
อีก 10 ถึง 20 ปี ข้างหน้าจะกลายเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน เพราะจะเชื่อมไปสู่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตของคนไทยทั้ง 65 ล้านคน ในวันนี้ ไปจนถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำ เศรษฐกิจ สังคม จุดยืนของประเทศไทย ศักยภาพทางการค้าของประเทศไทย จะอยู่ที่ตรงไหน
เหล่านี้คือปัญหา ที่อีกไม่นานเกินรอพวกเราคนไทยจะได้รับรู้ และเป็นหน้าที่ของกระทรวงพม. และผู้เชี่ยวชาญ ต้องมากระตุกต่อมให้คนไทยได้รับรู้ก่อนว่า มันคือระเบิดเวลาลูกใหญ่ไม่แพ้อีกหลาย ๆ ปัญหา
นายวราวุธ กล่าวว่า สถาบันอนาคตไทยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร มีความท้าทายต่อการพัฒนา และออกแบบนโยบายด้านสังคมเป็นอย่างมาก ประชากรน้อยลง ในขณะที่ผู้สูงอายุมีมากขึ้น แล้วใครจะมาเป็นคนจ่ายเงินเข้ากระเป๋าสำนักงบประมาณ
อ่านข่าว : ตร.ไซเบอร์ยึดทรัพย์คดีฉ้อโกงกว่า 1,200 ล้านบาท
ผมเคยให้สัมภาษณ์ว่า เงินเข้าไม่มี เพราะจากคนเสียภาษีในประเทศไทย 65 ล้านคน เสียภาษีอยู่ 4.5 ล้านคน แล้วจะเอาเงินจากไหน ดราม่าก็บังเกิด แต่นี่คือเรื่องจริง และเป็นสิ่งที่คนไทยหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า การเปลี่ยนแปลงประชากรจะเป็นตัวกระทบและกำหนดนโยบายทางด้านสังคม สวัสดิการ และเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้
นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้เรามีอัตราเด็กแรกเกิดที่น้อยลง อีกไม่นานปัญหาเรื่องแรงงานก็จะเข้ามา ในขณะที่ผู้สูงอายุหรือผู้มากประสบการณ์ ก็จะมีมากขึ้น คนใช้สวัสดิการมากขึ้น แต่คนเอาเงินเข้ากองทุนน้อย แล้วเราจะเอาคนกลุ่มไหนมาจ่ายเงินให้กับสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เพราะแหล่งรายได้เดียวของประเทศ คือภาษี ในเมื่อคนทำงานน้อยลง แล้วเราจะเอาใครมาจ่าย วันนี้จึงเป็นหน้าที่ของกระทรวงพม.
ดังนั้นงบประมาณปี 2568 ต้องเป็นกรอบงานของกระทรวงพม. เราจะต้องเปลี่ยนบริบท การทำงานของกระทรวงไม่ใช่กระทรวงสังคมสงเคราะห์ แต่มีหน้าที่สร้างศักยภาพให้กับคนกลุ่มเปราะบาง คนสูงอายุผู้มากประสบการณ์ คนพิการ
อ่านข่าว : กมธ.ตำรวจ ลั่นแค่ไหนแค่นั้น รพ.ตำรวจ ให้สุดชั้น 6 ไม่ถึง "ทักษิณ"
นายวราวุธ กล่าวว่า ซึ่งคนสูงอายุผู้มากประสบการณ์ ก็มีแบ่งช่วงได้ 3 ช่วง ต้น กลาง ปลาย แต่ศักยภาพของคนกลุ่มนี้ 60-75 ปี ยังมีทั้งกำลังกายและกำลังสมอง เหลือเพียงอย่างเดียวคือกำลังใจที่จะเข้ามาทำงาน
ดังนั้นเป็นหน้าที่ของพวกเรา ในการสร้างความตระหนักให้ทุกหน่วยงานของภาครัฐ เพราะพม. เพียงกระทรวงเดียวทำงานไม่ได้ ต้องร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน มหาดไทย หน่วยงานราชการต่าง ๆ
นายวราวุธ กล่าวว่า ตนขอบคุณปลัดพม.ที่ได้ลงนามร่วมกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ประกอบด้วย 5 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ตนจึงอยากให้โครงการนี้สำเร็จให้ได้ ภายในปีงบประมาณ 2567 และปี 2568 ตนหวังว่า จะทำให้ผู้พิการปีละกว่าแสนคนมีงานทำ นี่คือการทำให้คนกลุ่มเปราะบางเป็นคนไม่เปราะบางอีกต่อไป
คนกลุ่มเปราะบาง คนพิการ หรือผู้สูงอายุ ผู้มากประสบการณ์ ไม่ใช่คนด้อยโอกาส แต่เราต้องหาโอกาสให้เขา และนำคนกลุ่มนี้เข้ามาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย
นายวราวุธกล่าวด้วยว่า จะบอกว่าอายุมากแล้ว เกษียณแล้ว แล้วยังต้องจับมาทำงานอีกหรือ ถ้าพูดแบบกำปั้นทุบดินก็คงใช่ เพราะไม่มีใครทำงานแล้ว แต่ถ้าเทียบกับบางประเทศในยุโรปหลายคนคงทราบว่าเขาเจอปัญหานี้แล้ว รัฐสวัสดิการในบางประเทศที่ดูแลดีมาก คน Gen Y ที่เป็นคนจ่ายเงินภาษีอย่างมหาศาล 30-40% บอกว่าไม่ทำแล้ว ขอรีไทร์ดีกว่าเพื่อไปใช้รัฐสวัสดิการ หากทุกคนรีไทร์ไปหมดแล้วใครจะทำงาน นำเงินมาเข้ากระเป๋าภาครัฐ
อ่านข่าว : พบ “เสือดำ” เดินโชว์ตัวทางขึ้นพะเนินทุ่ง แก่งกระจาน