วันนี้ (28 ธ.ค.2566) นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้า การเจรจา FTA ไทย-ศรีลังกา หลังการประชุมดังกล่าวเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 11-16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ณ กรุงคอลัมโบว่า ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยข้อตกลงครอบคลุมการค้าสินค้า การค้าบริการ การลงทุน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งจากนี้แต่ละฝ่ายจะดำเนินกระบวนการภายใน เพื่อนำไปสู่การลงนามความตกลงฯต่อไป
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เ
ส่วนไทย โดยกระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอผลการเจรจาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อขอความเห็นชอบให้มีการลงนามความตกลงฯ ในช่วงการเดินทางเยือนศรีลังกาอย่างเป็นทางการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตามคำเชิญของประธานาธิบดีศรีลังกาในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567
ข้อตกลง FTA ดังกล่าว ถือเป็นฉบับแรกในรัฐบาลชุดนี้ และเป็น FTA ฉบับที่ 15 ของไทย โดยไทยและศรีลังกาจะต้องดำเนินกระบวนการภายใน เพื่อนำไปสู่การลงนามตามข้อตกลงฯคาดว่าจะสามารถลงนามได้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
นางสาวโชติมา กล่าวว่า แม้ศรีลังกาจะเป็นประเทศขนาดเล็ก มีประชากรเพียง 22 ล้านคน แต่มีจุดเด่นด้านที่ตั้ง ซึ่งเป็นเกาะในมหา สมุทรอินเดีย โดยเป็นจุดยุทธศาสตร์ของการขนส่งทางเรือ และมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ อาทิ แร่รัตนชาติ แร่แกรไฟต์ และสัตว์ทะเล
จัดการประชุมเจรจา FTA ไทย-ศรีลังกา รอบที่ 9 ระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม 2566 ณ กรุงโคลัมโบ
และหากมีการทำ FTA ไทยจะได้ประโยชน์ในการส่งออกสินค้าหลายประเภท เช่น ยานยนต์ สิ่งทอ อัญมณี โลหะ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักรกล เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์เหล็ก กระดาษ ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง อาหารสัตว์ เมล็ดข้าวโพด
ขณะที่ภาคบริการที่ได้รับประโยชน์ คือ ธุรกิจด้านการเงิน ประกันภัย คอมพิวเตอร์ ก่อสร้าง ท่องเที่ยว และวิจัยและพัฒนา และด้านการลงทุนที่ได้รับประโยชน์ ได้แก่ สาขาการผลิตอาหารแปรรูป การผลิตรถยนต์และส่วนประกอบ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ สิ่งทอ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์การแพทย์
ทั้งนี้ในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค. 2566) การค้าระหว่างไทยและศรีลังกา มีมูลค่า 320.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปศรีลังกา มูลค่า 213.49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากศรีลังกา มูลค่า 106.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ประกอบด้วย ยางพารา ผ้าผืน อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอยและอัญมณี เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และเคมีภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันไทยมีข้อตกลง FTA 14 ฉบับ กับ 18 ประเทศคู่ค้า ได้แก่ อาเซียน 9 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย เปรู ชิลี และฮ่องกง โดยความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
อ่านข่าวอื่นๆ:
รัฐควัก 7.7 พันล้าน จ่ายชาวไร่อ้อย 1.25 แสนราย เงินเข้าบัญชีวันนี้
รวบ "แก๊งรับซื้อหมู" เมืองน้ำดำ "โกงตาชั่ง" เสียหาย 2.4 หมื่นบาท
เข็น Quick Win 99 วัน พณ.ฟุ้งลดครองชีพกระตุ้นศก.1.2 หมื่นล้าน