ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ภูมิธรรม"​ เมิน​ นิด้าโพล​ คะแนน​ "พิธา"​ นำ​ "เศรษฐา"​ ชี้ 3 เดือนเร็วไป

การเมือง
25 ธ.ค. 66
10:53
274
Logo Thai PBS
"ภูมิธรรม"​ เมิน​ นิด้าโพล​ คะแนน​ "พิธา"​ นำ​ "เศรษฐา"​ ชี้ 3 เดือนเร็วไป
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ภูมิธรรม" เมิน​ นิด้าโพล​ คะแนน​ พิธา​ นำ​ เศรษฐา​ -​ แพทองธาร​ ชี้​ 3 เดือนเร็วเกินไป​ บอก​ รัฐบาลมีเวลา 4 ปี​ แต่หลังจากนั้นประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ใครพูดใครทำ​ -​ สร้างประโยชน์ ได้ดีที่สุด

วันนี้ (25 ธ.ค.66) นาย​ภูมิธรรม​ เวช​ย​ชัย​ ​รองนายกฯ ​และ รมว.​พา​ณิชย์​ กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็นของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองที่มีคะแนน ของนายพิธา​ ลิ้มเจริญรัตน์​ สูงกว่า​ นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ว่า​ ไม่แปลกอะไร เพราะการสำรวจของโพลต้องดูว่าขึ้นอยู่กับสถาบันฯใดบ้างและกลุ่มตัวอย่าง​มีจำนวนเท่าไหร่ หรือส่วนใดบ้าง

ขณะนี้เราก็รับฟังผลโพลทุกส่วน ที่มีทิศทางเดียวกันหรือแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือปัญหาพื้นที่ของประชาชนโดยตรง ซึ่งตนเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่ที่เราไป และประชาชนส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนพรรคเพื่อไทยและนายกฯ

ส่วนกรณีที่มีลักษณะคนเมืองหรือคนกลุ่มหนุ่มสาว นายภูมิธรรม​ ยอมรับว่า เสียงความนิยมของนายพิธา​ ยังมีความนิยมอยู่ แต่จริง ๆ ต้องอยู่ที่การทำงาน ซึ่งรัฐบาลนี้เข้ามาในช่วงแรกก็ยังยุ่งอยู่ในช่วงการทำงานมาก​ แต่หลังการทำงานก็ต้องดูกันว่าประชาชนจะรู้สึกหรือยอมรับอย่างไร พร้อมย้ำว่า ความนิยมไม่เท่ากับผลงานรับใช้ประชาชน

อ่านข่าว : "พิธา" เข้าไต่สวนคดี 112 ยันไม่มีเจตนาล้มล้างการปกครอง 

เมื่อถามว่าระยะเวลา 3 เดือน เร็วเกินไปสำหรับการสำรวจความคิดเห็นประชาชนหรือไม่​ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า​ 3 เดือนเร็วไปนิดนึง เหมือนกับที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะรัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงาน พร้อมขอให้เข้าใจว่ารัฐบาลเข้ามาทำงานก็เจอแต่ปัญหาเยอะ ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมา 9-10 ปี จากการรัฐประหารของประเทศ ซึ่งการดำเนินการขณะนี้ถือเป็นการปูรากฐาน โดยสิ่งที่สำคัญขณะนี้คือรัฐบาลไม่มีเงินลงทุนเกี่ยวกับงบในการดำเนินงาน โดยส่วนใหญ่เป็นงบประมาณประจำ เพราะงบประมาณเป็นช่วงรอยต่อ

ขณะนี้งบประมาณปี 67 กำลังจะเข้าต้นปีที่จะถึงนี้​ เพราะฉะนั้นขณะนี้จึงไม่มีเงินทำงาน แต่เงินที่จะสามารถจะมาดำเนินการได้ก็จะเป็นช่วง พ.ค.67 เป็นต้นไป พร้อมย้ำว่าที่ผ่านมาเราใช้เงินในการบริหาร โดยนำธนาคารของรัฐเข้ามาช่วยบ้างหรือเป็นเงินที่หยิบตรงนั้นมาโปะตรงนี้ ฉะนั้นการทำงานในวันนี้คือการสร้างรากฐาน และเป็นการเตรียมพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป

นายภูมิธรรม เวชยชัย  รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์

พร้อมยืนยันว่าปี 67 จะเป็นปีที่ทุกคนจะได้เห็นว่าฝีมือการทำงาน พร้อมมองว่าตั้งแต่ปี 67 คนก็จะเริ่มเข้าใจแล้วว่า ในช่วง 3 เดือนที่รัฐบาลดำเนินการมาได้ปูรากฐานอะไรไว้บ้าง โดยในส่วนของตนที่กำกับดูแลกระทรวงพาณิชย์ ก็ทำนโยบายเรื่องลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ซึ่งไม่มีการใช้เงินรัฐ เพราะมีการดึงบริษัทต่าง ๆ เข้ามาช่วยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชน​ และบริษัทหลายบริษัทก็ยอมขาดทุนเพราะเป็นการช่วยเหลือประชาชน เพราะถ้าประชาชนแข็งแรงก็จะเอื้อในเรื่องเศรษฐกิจได้ดี และทำให้ระบบขับเคลื่อนไปได้ และจะเชื่อมโยงไปถึงการขยับขึ้นทางด้านเศรษฐกิจ

อ่านข่าว : ศาลรธน. ไต่สวน "พิธา" แก้ไข ม.112 ล้มล้างการปกครอง 

ส่วนมั่นใจว่าผลงานรัฐบาลจะเป็นตัวดึงคะแนนความนิยมกลับคืนมาได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า​ ตนมองว่าเรื่องผลงานเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ในการดึงความรู้สึกของประชาชน​ เพราะถ้าเห็นว่าถ้าเห็นว่ารัฐบาลตั้งใจจริงและสามารถแก้ไขปัญหาได้ ประชาชนก็จะพึงพอใจ

แต่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือเรามีความสามารถเหนือกว่าพรรคการเมืองอื่น คือการลงไปพบปะกับประชาชนโดยตรง เพราะสมาชิกพรรคเพื่อไทยลงพื้นที่ ก็ได้รับเสียงสนับสนุนแนบแน่นและแข็งแรง เราก็ยังเชื่อมั่นในตรงนี้ แต่อาจจะต้องปรับปรุงการสื่อสารให้กับประชาชนและเยาวชนให้มากขึ้น โดยการใช้ โซเชียลมีเดีย

อ่านข่าว : “รัฐบาลเศรษฐา” เปิดผลงาน 3 เดือน “ลดรายจ่าย-เพิ่มรายได้” รอดูดอกผลปีหน้า 

พร้อมยอมรับว่าพรรคเพื่อไทย ยังไม่แข็งแรงในเรื่องของการใช้โซเชียลมีเดีย ทำให้การสื่อสารยังคงมีข้อจำกัด แต่เชื่อว่าหลังจากที่มีการปรับปรุงพรรคใหม่และมีหัวหน้าพรรคคนใหม่ คือ น.ส.แพทอง​ธาร​ รวมถึง มีกรรมการบริหารพรรครุ่นใหม่ ก็เชื่อว่าการปรับตัวต่างๆจะทำให้เข้าถึงทุกกลุ่มทุกวิชาชีพ และเยาวชนกลุ่มต่างๆได้มากขึ้น ความเชื่อว่าการสื่อสารในเรื่องของวิสัยทัศน์ผลงาน สื่อสารประชาชนมากขึ้น ก็จะเป็นผลทำให้สิ่งต่างๆได้พัฒนาดีขึ้น​

นายภูมิธรรมยังกล่าวย้ำว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไป เพราะรัฐบาลมีเวลา 4 ปีแต่หลังจาก 4 ปีประชาชนก็จะเป็นผู้ตัดสิน ว่าใครพูดใครทำและสร้างประโยชน์ให้ประชาชนได้ดีที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

"ชัยธวัช" เตรียมซักฟอกงบฯ ปี 67 โอดมีเวลาอ่านเอกสารแค่ 7 วัน  

"เศรษฐา" ยะก๋านเมืองน่าน แก้หนี้นอกระบบพรุ่งนี้ 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง