วันนี้( 25 ธ.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญจะเปิดห้องพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนคำร้องที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ยื่นคำร้องให้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และพรรคก้าวไกล ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่
อ่านข่าว : 24 ม.ค.นี้ ศาล รธน.นัดฟังคำวินิจฉัยคดี "พิธา" ถือหุ้น ITV
นายธีรยุทธ กล่าวว่า มั่นใจในคำร้องเพราะก่อนหน้านี้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลได้อนุญาตให้เข้าไปตรวจสำนวนที่ยื่นต่อศาล โดยเท่าที่ดูข้อมูล มีข้อมูลที่ศาลเรียกข้อมูลจากหลายหน่วยงานราชการส่งมาให้พิจารณาในสำนวนคำร้อง โดยพบว่าหลายหน่วยงานที่ส่งไปให้ศาลออกมาในแนวทางสนับสนุนคำร้องที่ได้ยื่นต่อศาล แต่ศาลจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
รายงานข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า พยานบุคคลที่ศาลเรียกมาให้ถ้อยคำในวันนี้ (25 ธ.ค.) เป็นพยานที่เป็นนักกฎหมายที่พรรคก้าวไกล เสนอบัญชีรายชื่อพยานไปให้ศาลพิจารณา โดยพรรคก้าวไกล เสนอบัญชีรายชื่อพยานไป 6 ปาก และหลังการไต่สวนพยานเสร็จสิ้นลง คาดว่าไม่เกิน 12.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญคงประกาศกำหนดวันนัดประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อลงมติและอ่านคำวินิจฉัยคดีดังกล่าวทันที โดยอาจนัดช่วงสิ้นเดือน ม.ค.2567
อ่านข่าว : "พิธา" แจงถือหุ้น ITV เคลียร์ทุกประเด็น รอฟังคำวินิจฉัยศาล รธน.
สำหรับคำร้องคดีดังกล่าว หากศาลยกคำร้องก็ถือว่ายุติ แต่หากศาลมีคำสั่งให้พรรคก้าวไกลยุติการเคลื่อนไหวทุกอย่างในเรื่องมาตรา 112 อาจทำให้มีบางฝ่าย เคลื่อนไหวไปยื่นเรื่องต่อนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อให้ กกต.ยื่นคำร้องเอาผิดนายพิธาและพรรคก้าวไกลต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 92 (2) ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ที่บัญญัติว่า หากพรรคการเมืองใดกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ ให้ กกต.ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค
อ่านข่าว : เปิดพยาน 3 ปาก คดี "พิธา" ถือหุ้นไอทีวี
ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคได้มอบหมายให้นายพิธาและนายชัยธวัช ดูแล เพราะทั้งคู่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยได้เตรียมข้อมูลอย่างละเอียดรอบด้าน
พร้อมชี้แจงทุกคำถาม พรรคพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ผ่านกระบวนการยุติธรรม และยืนยันว่า ทุกอย่างที่ดำเนินการไป รวมถึงการเสนอให้แก้ไขมาตรา 112 นั้น แม้จะมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยในนโยบายนี้ แต่ยืนยันว่าเป็นการเสนอนโยบายอยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ และภายใต้กรอบของกฎหมายทุกประการ
อ่านข่าว
"พิธา" ไร้กังวลไต่สวนคดีถือหุ้นสื่อ ITV