วันนี้ (22 ธ.ค.2566) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงระเบียบราชทัณฑ์เกี่ยวกับการคุมขังนอกเรือนจำว่า เป็นช่วงจังหวะการปรับปรุงกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่กำหนดไว้ทุก 5 ปี ยืนยันเป็นการ ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของสังคม และประเทศชาติดีกว่ามานั่งรอเซ็นเอกสารไปวันๆ ซึ่งไม่ใช่การพัฒนาประเทศ แต่การพัฒนาประเทศ คือการคิดเอากฎหมายมาทำให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติ ถือเป็นการเมืองที่ดี
ยอมรับว่าหลังที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงประกาศดังกล่าว ทำให้บุคคลที่จะได้รับโอกาสนั้นเสียโอกาสไป เนื่องจากทำให้ข้าราชการผู้ปฏิบัติงานเกิดความกังวล และคิดว่าถ้าไม่ทำแล้วจะดีกว่า
นายสมศักดิ์ ยืนยันว่า หลังมีการปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวจะสามารถชี้แจงกับประชาชนได้ เพราะไม่มีใครสามารถพูดได้ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดถึงความตั้งใจของหน่วยงาน พร้อมมองว่า หากไม่เดินหน้าเรื่องนี้ต่อจะเกิดความเสียหายต่อคนที่ได้รับโอกาส
อ่านข่าว ส่อง "หอผู้ป่วยพิเศษ" รพ.ตำรวจ หลัง "ทักษิณ" นอนครบ 120 วัน
สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี
ยันไม่ปกปิดข้อมูล-ขึ้นดุลยพินิจแพทย์
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ต้องรักษาตัวอยู่นอกเรือนจำไปตลอด แต่ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของแพทย์ และสิทธิของผู้ต้องขัง ซึ่งทุกคนที่ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำไม่ได้หมายความว่าใครจะมีสิทธิเข้าเยี่ยมได้ทุกคน
ยืนยันไม่ใช่การปิดกั้น ปกปิดข้อมูล แต่เป็นไปตามระเบียบ การเข้าเยี่ยมขึ้นอยู่กับผู้ต้องขังด้วยว่าจะอนุญาตให้ใครเข้าเยี่ยมได้ เช่น ทนายความ ญาติหรือคนสนิท หากผู้ต้องขังไม่อนุญาตก็ไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้ ไม่ใช่ว่าใครจะเข้าไปสอบถามว่าเจ็บป่วยเป็นโรคอะไรได้
นอกจากนี้ หากกรณีที่กรรมาธิการการตำรวจ ของสภาผู้แทนราษฎร จะขึ้นไปดูที่ชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจ จะต้องขออนุญาตก่อน ถ้าทำโดยพลการอาจถูกฟ้องได้
ถ้าเขาไม่อนุญาตก็ไม่ได้ เป็นเอกสิทธิของผู้ป่วย แล้วหากไปถามเขาว่าเจ็บป่วยอะไร เขาไม่ได้เปิดเผย ถ้าเปิดเผยก็ถูกฟ้องร้อง ซึ่งหมายถึงทุกคนไม่ใช่เฉพาะใคร ไม่ใช่สิทธิของแพทย์ที่จะเปิดเผย
อ่านข่าว “ภูมิธรรม“ ชี้กรณี “ทักษิณ” อย่าโยงการเมือง ทำตามระเบียบ-คุกแออัด
โรงพยาบาลตำรวจ
ทนายขู่ฟ้องคนให้ร้าย "ทักษิณ"
ก่อนหน้านี้ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ โพสต์ว่า อย่าล้ำเส้น ผู้ใดเรียกร้องให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ป่วยของนายทักษิณ โดยไม่ได้รับความยินยอม ด้วยการอ้างข่าวลือให้ร้ายนายทักษิณ ว่าไม่ได้ป่วยจริง ไม่อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ หรือเป็นอภิสิทธิชน
ทั้งกล่าวหาพาดพิงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อันเป็นการกล่าวใส่ความ ยุยง ส่งเสริม สนับสนุนให้บุคคลอื่นกระทำการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิของผู้ป่วยและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
อ่านข่าว จับกระแสการเมือง : 20 ธ.ค.66 ขัง “ทักษิณ”นอกคุก ท้าทายกระบวนการยุติธรรมไทย
การอ้างข้อเท็จจริงเลื่อนลอยให้สังคม หรือประชาชนเกิดความสับสน โดยไม่มีอำนาจหน้าที่โดยตรง หรืออ้างว่ามีหน้าที่ แต่ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่นโดยจงใจ หรือมุ่งหวังกระแสสังคมให้คิดลบหรืออาศัยสถานะของตนที่มีช่องทางสื่อสาร สัมภาษณ์ต่อสาธารณะโดยยืนยันข้อเท็จจริงที่ทำให้เสื่อมเสียต่อ ชื่อเสียง เกียรติยศ นั่นคือเจตนากระทำความผิดต่อกฎหมาย
อนึ่ง ภายใต้เงื่อนไขสำคัญและภายใต้อายุความ จึงจำเป็นที่ต้องใช้สิทธิ ดำเนินคดีกับผู้ใดก็ตามที่กระทำการละเมิดสิทธิของนายทักษิณ
อ่านข่าว
“วิโรจน์” จี้ “ภูมิธรรม” เปิดรายละเอียด “ทักษิณ” บอกอย่าผลักภาระให้ดุลยพินิจแพทย์