วันนี้ (18 ธ.ค.2566) นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงความคืบหน้าหลังจากกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ 6หน่วยงานรัฐทำบันทึกข้อตกลง MOU เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการเร่งปราบปรามนอมินีในธุรกิจท่องเที่ยวตามจังหวัดท่องเที่ยวหลักของไทยซึ่งมี 15,000 แห่ง
และลงพื้นที่สอบข้อมูลเชิงลึก บริษัทผู้ประกอบการท่องเที่ยงและร้านอาหารกว่า 400 ราย และนำไปสู่การจับกุมผู้ประกอบการ 8 รายว่า ในปี 2567 กรมฯเตรียมแผนการตรวจสอบธุรกิจที่เข้าข่ายในลักษณะนอมินี ที่ให้คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อหลีกเลี่ยงการขออนุญาตประกอบธุรกิจตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542
ตั้งแต่ขั้นตอนการจดทะเบียนจนถึงเอกสารที่ธนาคารออกให้เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงินของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นคนไทยที่ลงทุนหรือถือหุ้นในนิติบุคคลร่วมกับคนต่างด้าว เพื่อแสดงความน่าเชื่อถือว่าคนไทยที่ร่วมลงทุนมีฐานะทางการเงินที่สามารถลงทุนด้วยตนเองได้
นางอรมน กล่าวว่า กรมฯ จะเริ่มตรวจสอบร้านค้ากลุ่มเป้าหมายที่เป็นนิติบุคคลประมาณ 26,000 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ต เป้าหมาย 9 จังหวัด คือ เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ชลบุรี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี และกรุงเทพฯ
การตรวจสอบนิติบุคคลจะพิจารณาจากการถือหุ้นของคนต่างด้าว ตั้งแต่ 40 % ขึ้นไป เป็นธุรกิจที่มีคนต่างด้าวเป็นผู้มีอำนาจกระทำการ มีการกำหนดให้สิทธิ์คนต่างด้าวมากกว่าคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิ์การออกเสียงลงคะแนน สิทธิ์การรับเงินปันผล รวมทั้งสิทธิ์การรับคืนทุนเมื่อเลิกกิจการ
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวอีกว่า สำหรับสผลการตรวจสอบนอมินีในปี 2566 ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบนิติบุคคลที่มีความเสี่ยงรวม 15,000 ราย และตรวจสอบเชิงลึกประมาณ 400 ราย จนพบพฤติกรรมน่าสงสัย และส่งดำเนินคดีรวม 8 ราย ตามความผิดของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
รายอื่น ๆ ที่ไม่ผิดกฎหมายที่กรมดูแลอยู่ แต่ผิดกฎหมายของหน่วยงานอื่น เช่น การตรวจคนเข้าเมือง หรือภาษี ได้ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อแล้ว
อ่านข่าว:
9 ธุรกิจดาวรุ่งปี67 “ท่องเที่ยว-สุขภาพความงาม-สัตว์เลี้ยง”
5 สินค้า-ธุรกิจอ่วม ปรับค่าไฟ 4.68 บาท ดันเงินเฟ้อต้นทุนพุ่ง
ร้านหมูย่าง-ไก่ย่าง เตรียมใช้ "โอ่ง"แทน "เตา" แก้ปัญหา PM2.5