วันนี้ (14 ธ.ค.2566) นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากข่าวเกษตรกรจังหวัดพิจิตรร้องเรียนกรณีข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาตกต่ำ ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม
โดยขายเป็นข้าวสดได้ราคา 10,300 บาท/ตัน นั้น ขอชี้แจงว่า ในฤดูเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิในฤดูกาลนี้ราคาสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ความชื้นไม่เกิน 15% ราคา 13,900 – 15,500 บาท/ตัน หรือราคาเกี่ยวสด 10,800 – 12,000 บาท/ตัน
โดยปัจจุบันข้าวเปลือกหอมมะลิออกสู่ตลาดหมดแล้ว ซึ่งในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว และช่วยเหลือเกษตรกรในการลดต้นทุนการผลิต จำนวน 4 มาตรการ คือ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง หรือฝากไว้ที่สหกรณ์ โดยช่วย ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท
ส่วนกรณีเกษตรกรฝากเก็บข้าวที่สหกรณ์ ทางสหกรณ์จะได้รับค่าฝากเก็บตันละ 1,000 บาท เกษตรกรได้รับ ตันละ 500 บาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตร ธ.ก.ส. จะให้สินเชื่อกับสถาบันเกษตรกร ซึ่งรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 3.85 และสถาบันฯ รับภาระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 1 โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก รัฐชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 4
และ โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 20 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 20,000 บาท เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและช่วยให้เกษตรกรมีกำลังใจในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวมากขึ้น ทั้งนี้ จากการดำเนินการดังกล่าวช่วยให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิที่เกษตรกรขายได้ในปีนี้ยังอยู่ในระดับสูงกว่าปีที่ผ่านมา
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้เพิ่มมาตรการติดตามดูแลการซื้อขายข้าวเปลือก ทั้งในเรื่องของการปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ รวมทั้งตรวจสอบความถูกต้องของเครื่องชั่งน้ำหนักและเครื่องวัดความชื้น ซึ่งหากพบเห็นว่าท่าข้าวหรือโรงสีใด ไม่ปิดป้ายแสดงราคารับซื้อ กดราคารับซื้อ โกงน้ำหนัก หรือมีพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการเอาเปรียบชาวนา สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน โทร 1569
อ่านข่าว:
ข้าวไทย" น่าห่วง "หยุดพัฒนา" ชาวนาใช้พันธุ์เพื่อนบ้านปลูกแทน
เจ้าของโรงสีเชื่อ ตลาดต่างประเทศยังนิยม "ข้าวหอมมะลิไทย"
เสียงชาวนา ไทยเสียแชมป์ข้าวจากนโยบายรัฐ ไม่ใช่ปริมาณ-คุณภาพข้าว