วันนี้ (14 ธ.ค.2566) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติเสียงข้างมาก 221 ต่อ 212 เสียง เห็นชอบให้เปิดการไต่สวนในกระบวนการถอดถอน "โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ จากกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตและรับสินบน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการติดต่อธุรกิจในต่างประเทศของ "ฮันเตอร์ ไบเดน" บุตรชาย ในช่วงที่ไบเดนดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดี
คณะกรรมาธิการกล่าวหาว่าระหว่างปี 2014-2019 ครอบครัวของไบเดน รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตระกูลนี้ รับเงินมากกว่า 24 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 840 ล้านบาท จากบุคคลที่อยู่ในต่างแดน ทั้งในจีน คาซัคสถาน โรมาเนีย รัสเซียและยูเครน
ซึ่งสมาชิกในครอบครัวของไบเดน โดยเฉพาะฮันเตอร์ บุตรชาย จะเปิดทางให้บุคคลเหล่านี้เข้าถึงไบเดน ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีในเวลานั้นได้ เช่น การรับประทานอาหารร่วมกัน การพบปะพูดคุยกับไบเดน ซึ่งไบเดนก็ได้พัฒนาความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางธุรกิจของฮันเตอร์ด้วย
ตั้งแต่ก่อนและระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ไบเดนกล่าวว่า เขาไม่เคยพูดคุยเรื่องธุรกิจกับบุตรชาย หรือบรรดาคู่ค้าทางธุรกิจของเขา และบุตรชายของเขาไม่ได้หาเงินจากธุรกิจที่ขัดต่อศีลธรรมในต่างประเทศ
ไบเดน ในวัย 81 ปี อยู่ระหว่างเตรียมตัวลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งปี 2024 ซึ่งการไต่สวนเพื่อถอดถอนเขาในครั้งนี้ แม้จะไม่มีมูลและไม่น่าจะถอดถอนไบเดนได้สำเร็จ แต่ก็อาจกลายเป็นปัญหาที่สร้างความปวดหัวให้ไบเดน โดยก่อนหน้านี้พรรคเดโมแครต ระบุว่า ข้อกล่าวหานี้ไม่มีมูลและการลงมติขั้นต่อไปในส่วนของวุฒิสภา ซึ่งต้องการเสียง 2 ใน 3 มีแนวโน้มสูงว่าจะไม่ผ่าน เนื่องจากพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา
อ่านข่าวอื่นๆ
จะรบจนกว่าชนะ! "เนทันยาฮู" เมินมติ UN หยุดยิงกาซา
"เทสลา" เรียกคืนรถ 2 ล้านคันในสหรัฐฯ พบระบบ Autopilot มีข้อบกพร่อง