วันนี้ (9 ธ.ค.2566) นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงลาออกจากสมาชิกพรรคด้วยเหตุผล 4 ข้อว่า
- สถานการณ์ของพรรคมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงอุดมการณ์เป็นอย่างมาก และจากที่มาร่วมประชุมรู้สึกว่าเป็นการประชุมเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเหมือนกับรู้ผลมาก่อนล่วงหน้า เพราะฉะนั้นทิศทางและแนวทางทางการเมืองของพรรคที่ผ่านมาจนมาถึงวันนี้
ตนเห็นว่าละทิ้งอุดมการณ์ของพรรค จะเห็นได้จากเหตุการณ์การจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมามีการไปลงมติให้นายเศรษฐา ทวีศิลป์ เป็นนายกฯ ทั้งที่พรรคมีมติแล้วว่าให้งดออกเสียง นั่นคือความชัดเจนว่าทิศทางของพรรคในเชิงอุดมการณ์การเปลี่ยนแปลง - มีคนกลุ่มหนึ่งในพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับคำว่าพรรคพวก มากกว่าจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน และมากกว่าอุดมการณ์ที่มีมาอย่างยาวนานของพรรค เราอาจจะเห็นทิศทางของการนำพาพรรคทางการเมืองในอนาคตอย่างชัดเจน ว่าจะเป็นอย่างไร เพราะปราศจากจุดยืนทางการเมือง
- ทิศทางของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เปิดโอกาสให้ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ทั้งที่ในที่ประชุมมีผู้เสนอตัวลงสมัครหัวหน้าพรรค โดยต้องใช้การงดเว้นข้อบังคับโดยใช้เสียง 3 ใน 4
แต่ปรากฏว่าไม่ให้ลงสนามเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นจึงถือว่าการเปลี่ยนแปลงของพรรคไม่เป็นไปในทิศทางที่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน แต่ใช้ความเป็นพรรคพวกมาตัดสินทุกเรื่องในการนำพาพรรค - คนที่จะมานำพาพรรคไม่รักษาสัจจะวาจา อย่าว่าแต่เป็นผู้บริหารพรรคเลย เป็นนักการเมืองก็เป็นไม่ได้ เพราะคำพูดและสัจจะที่เราให้ไว้กับประชาชนในที่สาธารณะ เปรียบเสมือนนโยบายที่ต้องรักษา นักการเมืองที่ดีต้องพึ่งรักษา
ดังนั้นถ้านักการเมืองที่มีคุณสมบัติแบบนี้มานำพาพรรค ผมเห็นว่าทิศทางในอนาคตของพรรคประชาธิปัตย์ ก็จะถูกประชาชนลงโทษ จึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ตลอดเวลา 13 ปีที่ผ่านมามีความผูกพันกับพรรค และจะดูว่าคนที่จะบริหารพรรค จะนำพาพรรคไปสู่จุดไหนและจะติดตามเฝ้าดู ถ้ามีโอกาสก็พร้อมจะกลับมาร่วมงานกับเพื่อนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ในโอกาสครั้งต่อไป นายสาธิตกล่าว
อ่าน : "อภิสิทธิ์" ถอนตัวแคนดิเดต หน.ประชาธิปัตย์ - ลาออก สมาชิกพรรค
ส่วนหลังจากนี้จะไปทำงานเมืองพรรคการเมืองไหน นายสาธิต กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการตัดสินใจว่าจะไปอยู่พรรคไหน แต่วันนี้ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค ซึ่งการลาออกครั้งนี้เป็นการตัดสินใจของตัวเองคนเดียวและคิดว่าจะมีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ส่วนใครจะมีแนวความคิดตรงกันหรือไม่แล้วแต่จะตัดสินใจ ไม่ได้ชวนใคร
อ่าน : "ชวน" เสนอชื่อ "อภิสิทธิ์" ร่วมชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์