วันนี้ (24 พ.ย.2566) นายชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ททท. จัดงาน “สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2566” เพื่อร่วมประเพณีลอยกระทงตามวิถีไทย สะท้อนความงดงามของวัฒนธรรมไทยกับสายน้ำสู่สากล ภายใต้แนวคิด “Moonlight Reflection Loi Krathong Along the Canal” สร้างสีสันบนผืนน้ำ ด้วยแสงสีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในวันที่ 24-28 พ.ย.นี้ 2566 จัดขึ้นที่คลองผดุงกรุงเกษม
ชาญยุทธ เศวตสุวรรณ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพมหานคร
ลอยกระทง สะท้อนความงดงามของวัฒนธรรมไทยกับสายน้ำ สู่สากล
นายณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม ททท. เปิดเผยสำหรับปีนี้ นำเสนอประเพณีลอยกระทงอันทรงคุณค่า สะท้อนความงดงามของวัฒนธรรมไทยกับสายน้ำ สู่สากล ผสานความทันสมัยของสื่อผสมและเทคโนโลยีเพื่อให้เข้าถึงคนรุ่นใหม่ สร้างการรับรู้ถึงคุณค่าของกิจกรรม และร่วมรับประสบการณ์ Amazing Experience เน้นย้ำความสุขและคุณค่าอย่างวิถีไทย นำส่งคุณค่าและประสบการณ์ใหม่ของประเพณี พร้อมคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
ณัฐ ครุฑสูตร ผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรม ททท.
นอกจากนี้ภายในงานมีขบวนแห่ประเพณีลอยกระทงและนางนพมาศ การแสดงทางวัฒนธรรม และกิจกรรมลอยกระทง
แลนด์มาร์คกระทงประดับไฟ 5 พื้นที่เอกลักษณ์ ได้แก่ ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่ ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง จังหวัดตาก ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประเพณีลอยกระทงกาบกล้วยเมืองแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ประเพณี สมมาน้ำคืนเพ็ง เส็งประทีป จังหวัดร้อยเอ็ด
การตกแต่งประดับไฟแสงสี ริมคลองผดุงกรุงเกษม พร้อมกิจกรรมสาธิตการทำกระทง DIY รวมถึงกิจกรรมตลาดย้อนยุค
ล่องเรือไฟฟ้าชมคลองผดุงกรุงเกษม
ททท.สำนักงานกรุงเทพมหานคร จึงใช้โอกาสนี้เชิญชวนนักท่องเที่ยวทำความรู้จักคลองผดุงกรุงเกษมให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการล่องเรือท่องเที่ยวในคลองผดุงกรุงเกษมกับเรือไฟฟ้า ซึ่งลดการปล่อยมลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ชมแหล่งท่องเที่ยวในเส้นทาง โดยมีจุดท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ ท่าเรือนครสวรรค์ ชมตลาดนางเลิ้ง ตลาดบกในยุคแรกๆของไทย อายุกว่า 120 ปี แม้เวลาผ่านไป แต่ยังคงเค้ารอยความรุ่งเรืองให้รำลึก
เช่น อาคารเก่าที่ได้รับอนุรักษ์ไว้ ร้านค้าเก่าแก่ดั้งเดิม ร่องรอยศิลปะและนาฎศิลป์ที่เคยรุ่งเรืองถึงขีดสุด โรงหนังเก่าแก่ที่ยังอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม ฯลฯ แต่สิ่งที่ยังคงโดดเด่นอยู่อย่างต่อเนื่องและเป็นที่จดจำ ได้แก่ อาหารการกินในตลาดนางเลิ้ง ที่ยังมีร้านรวงของอร่อยเปิดขายมาอย่างยาวนาน บางร้านมีอายุถึง 70-80 ปี ให้ลิ้มลอง
เส้นทางล่องเรือสายนี้ยังผ่านตลาดโบ๊เบ๊ ตลาดขายส่งเสื้อผ้าราคาเหลือเชื่อเมื่อซื้อหลายชิ้น ปัจจุบันมีการจัดระเบียบให้เดินชอปปิงได้สบาย สุดสายเป็นท่าเรือตลาดเทวราช ที่สามารถเดินเชื่อมไปยังวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร วัดที่ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญได้แก่ พระอุโบสถที่มีพระประธานได้รับพระราชทานนามว่า “พระพุทธเทวราชปฏิมากร” ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่น่าสนใจ ใกล้ๆกันมีพิพิธภัณฑ์สักทอง ภายในประดิษฐานรูปปั้นเหมือนสมเด็จพระสังฆราช 19 พระองค์ นอกจากนั้นยังมีรูปปั้นองค์เทวราชเนรมิต อยู่ใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ เป็นที่นับถือมาก มีนักท่องเที่ยวมาสักการะขอพรกันจนต่อแถวรอนับชั่วโมง
เส้นทางล่องเรือนี้ มีทั้งสิ้น 11 ท่า จากต้นทางถึงท่าเรือปลายทาง เปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา นับเป็นเส้นทางที่เหมาะต่อการเดินทางท่องเที่ยวสบายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันหยุดที่อยากเดินทางไปเที่ยวใกล้ๆ แต่ได้ชิมของอร่อย ทำบุญ ไหว้พระ ซื้อของอร่อยฝากเพื่อนหรือคนในครอบครัว เพราะดีกรีของอร่อยจากนางเลิ้ง ทุกคนรู้จักดี หรือจะ Walking Tour เดินชมตึกเก่าสีหวานชมร้านรวงที่ให้บริการมานาน เช่น นางเลิ้งอาร์ต มีสถาปัตยกรรมเป็นเอกลักษณ์ แวะแล้วพักเหนื่อยในคาเฟ่สวยๆ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
เรือไฟฟ้าในคลองผดุงกรุงเกษม เปิดให้บริการ ในวันวันธรรมดา มีให้บริการเฉพาะช่วง 06.00-09.00 น.และ 16.00-19.00 น. เรือออกทุก 20 นาที วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. เรือออกทุก 1 ชั่วโมง ขณะนี้กรุงเทพมหานคร ยังไม่เก็บค่าบริการ
เรือไฟฟ้า
อ่านข่าวอื่น ๆ :
เลาะแลนด์มาร์กเมืองย่าโม ประตูสู่อีสาน บ้านเกิด "แอนโทเนีย"