ตร.ไม่ยืนยันข่าว “แป้ง นาโหนด” ขอมอบตัว-รอตรวจสอบความชัดเจน

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ยังไม่ยืนยันกระแสข่าว “แป้ง นาโหนด” ติดต่อขอมอบตัว-รอตรวจสอบความชัดเจน ยันไม่ยุติปฏิบัติการไล่ล่าบนเทือกเขาบรรทัด

วันนี้ (21 พ.ย.2566) พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าชุดติดตามจับนายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้งนาโหนด เปิดเผยความคืบหน้าว่า ขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังไม่มีนโยบายที่จะยุติภารกิจการติดตามจับนายเชาวลิต เนื่องจากเป็นผู้ต้องหาอันตรายที่มีพฤติกรรมหลบหนี และใช้อาวุธสงครามต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อประชาชนที่พบเห็น

จากปฏิบัติการติตตามตัวช่วงที่ผ่านมา ยังบ่งชี้ว่า นายเชาวลิตยังอยู่บนเทือกเขาบรรทัด แม้จะตัดวงจรการลอบส่งเสบียงไปแล้ว แต่เชื่อว่า นายเชาวลิตมีความสามารถที่จะดำรงชีพอยู่ได้ อีกทั้งพบว่าหลังจากที่หนีออกจากโรงพยาบาล ได้มุ่งหน้าขึ้นเขาบรรทัด โดยไม่แวะเส้นทางอื่น

พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร

พล.ต.ท.อิทธิพล กล่าวว่า ทุกหน่วยงานทั้งฝ่ายปกครองทหาร ตำรวจ ยังคงบูรณาการปิดล้อมพื้นที่เชิงเขาโดยรอบหมู่บ้าน เพื่อปิดเส้นทางหลบหนี แต่ยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่นายเชาวลิตจะหลบหนีออกนอกพื้นที่

ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวมีผู้ติดต่อไปยัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อประสานการมอบตัวของนายเชาวลิต เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ว่า ยังไม่ยืนยันว่าบุคคลที่ติดต่อขอเข้ามอบตัวเป็นใคร และบุคคลที่จะขอเข้ามอบตัวนั้นเป็นใคร ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจ

ชาวบ้านตระ วอนแก้ผลกระทบพื้นที่

ขณะที่ชาวบ้านบ้านตระ ได้ยื่นหนังสือ 5 ฉบับ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง, ผบช.ภ.9, นายอำเภอปะเหลียน, นายก อบต.ปะเหลียน และหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปฏิบัติการตามจับนายเชาวลิตที่ยืดเยื้อ ดังนี้

ชาวบ้านร้องเส้นทางเข้าออกชุมชนเสียหาย

เส้นทางรถจักรยานยนต์เข้า-ออกชุมชน ซึ่งชาวบ้านร่วมกันลงขันเทซีเมนต์กว้างประมาณ 50-80 เซนติเมตร ชำรุดเสียหายหลายจุด ส่วนเส้นทางที่ยังไม่ได้เทซีเมนต์ก็เป็นหลุมลึก ทำให้เดินทางลำบากและเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มบาดเจ็บหลายคน, กระทบการประกอบอาชีพของชาวบ้านในพื้นที่ห่างจุดเกิดเหตุ ซึ่งต้องทำงานช่วงกลางคืน เช่น กรีดยางพารา หาปลา หากบ เพราะเจ้าหน้าที่สั่งการให้ประกอบอาชีพเฉพาะช่วงกลางวัน, เกิดความหวาดกลัว ตื่นตระหนก ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมันนิ ที่อาศัยร่วมกับชุมชน ต้องย้ายแหล่งที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ชาวบ้านตระยื่นหนังสือเรียกร้องแก้ผลกระทบ

ทั้งนี้ ขอให้น่วยงานรับผิดชอบ ปรับปรุงเส้นทางเข้า-ออกที่ได้รับความเสียหายให้เป็นปกติ, ขอให้ติดตั้งสัญญาณเครื่องมือสื่อสารในพื้นที่บ้านตระ หากมีผู้กระทำผิดหลบหนีเข้าไป คนในพื้นที่สามารถรู้และติดต่อสื่อสารเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ได้ รวมทั้งหากินตามวิถีชุมชนตามปกติ โดยเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด จะติดตามความคืบหน้าที่ศาลากลางจังหวัดตรัง ในวันที่ 28 พ.ย.นี้