ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ครม.รับรองกฎหมายสมรสเท่าเทียม ส่งสภาฯพิจารณา 12 ธ.ค.นี้

การเมือง
21 พ.ย. 66
13:44
2,212
Logo Thai PBS
ครม.รับรองกฎหมายสมรสเท่าเทียม ส่งสภาฯพิจารณา 12 ธ.ค.นี้
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ครม.รับรองกฎหมายสมรสเท่าเทียมส่งสภาฯพิจารณาสมัยประชุมหน้า 12 ธ.ค.นี้ ย้ำปัญหาหมูเถื่อนต้องสาวให้ถึงรายใหญ่ เร่งเดินหน้าทำ "Single window From one stop service" อำนวยความสะดวกการเดินเอกสารส่งออกสินค้า

วันนี้ (21 พ.ย.2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า และมีการสั่งการให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่ดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดูแลเรื่องปัญหาหมูเถื่อน โดยกำชับว่าจะต้องสาวไปถึงรายใหญ่ให้ได้ และรวมถึงเรื่องตลาดทุนที่มีการขยายผลไปยังบริษัทสตาร์ก

พร้อมกับเปิดเผยว่าเมื่อวานนี้ได้พบเจอกับผู้ประกอบการค้าข้าวรายใหญ่ ของประเทศไทยและมีการพูดคุยปัญหาเรื่องข้าว ซึ่งหนึ่งในปัญหาคือเรื่องพันธุ์ข้าวไทย เนื่องจากผลผลิตต่อไร่ของไทยต่ำกว่าของประเทศเพื่อนบ้าน

และหนึ่งในเหตุผลเนื่องจากพันธุ์ข้าวไทยที่มีการพัฒนาช้า และได้รับการยอมรับจากกรมการข้าวล่าช้า ทำให้ปลูกได้ช้า จึงได้สั่งการไปยัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ตอบรับที่จะดูแลปัญหาและขั้นตอนการออกพันธุ์ข้าวใหม่เพื่อให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่สูงขึ้นต่อไร่ให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน

ขณะเดียวกัน ครม. ได้รับรองร่างประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เพื่อใช้รับรองการเรื่องสมรสเท่าเทียม แล้วจะส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในสมัยประชุมหน้าที่จะเปิดในวันที่ 12 ธ.ค.นี้

นายเศรษฐา กล่าวว่า ประเด็นเรื่องของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน One stop service Single window from ที่จะรวบรวมจากทุกหน่วยงานรัฐเข้ามาบูรณาการเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับ ทุกภาคส่วนที่ติดต่อทำเอกสารที่ส่งสินค้าออกขายต่างประเทศ โดยใช้ที่ จ.หนองคาย นำร่อง ทำวันสต็อปเซอร์วิสฯ ว่าสามารถทำได้รวดเร็วหรือไม่อย่างไร

ไม่มีประโยชน์หากลงทุนทำโครงสร้างพื้นฐานถึง 100,000 ล้านบาท แต่ติดปัญหาเรื่องการทำเอกสารที่ชายแดน เสียเวลาที่ต้องเดินเอกสารผ่านโต๊ะต่าง ๆ ทำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุ 

จึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่สั่งการให้ ครม. และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ทางกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง รวบรวมทำ Single window From one stop service เพื่อหน่วยความสะดวกให้กับประชาชน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง