วันนี้ (17 พ.ย. 2566) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2566)ที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูในจังหวัดบุรีรัมย์ร้องเรียนผ่านเฟสบุ๊คว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า “แก๊งรับซื้อหมู” มีพฤติกรรมเอาเปรียบเกษตรกรผู้เลี้ยง โดยรับซื้อหมูเป็นจากเกษตรกรผู้เลี้ยงจึงสั่งการให้สายตรวจเฉพาะกิจชั่งตวงวัด กองชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน
ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก.1.บก.ปคบ.) เข้าตรวจสอบสถานรับซื้อหมูพบว่า เมื่อชั่งน้ำหนักหมูพบว่ามีน้ำหนักต่ำกว่าที่เกษตร กรผู้เลี้ยงได้ประมาณการไว้มาก จึงสงสัยว่าเป็นการโกงเครื่องชั่ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจชั่งตวงวัดจึงได้สืบหาข้อมูลเพิ่มเติม วางแผน และเข้าตรวจสอบสถานรับซื้อหมูในพื้นที่บ้านตะโก ตำบลบ้านยาง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ปรากฏว่าน้ำหนักจริงของหมู 8 ตัว รวมกัน 757 กิโลกรัม ขณะที่แก๊งรับซื้อหมูชั่งได้เพียง 485 กิโลกรัม น้ำหนักหมูหายไปถึง 272 กิโลกรัม มูลค่าความเสียหายที่เกษตรกรได้รับสูงถึงเกือบ 20,000 บาท จับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 5 คน
คนกลุ่มนี้เคยถูกจับกุมมาแล้วทุก ทั้งหมดรับสารภาพว่ากระทำผิดจริงโดยใช้เท้าเหยียบและงัดไปที่เครื่องชั่ง
นายวัฒนศักย์ กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการโกงเครื่องชั่ง มีความผิดตาม พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 75/1 (กระทำด้วยวิธีการใด ๆ เพื่อให้ความเที่ยงของเครื่องชั่งตวงวัดผิดเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด มีโทษต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีต่อไปแล้ว
สำหรับ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา กองชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน ได้จับกุมผู้ที่โกงเครื่องชั่งหมูมาแล้ว 3 ครั้ง คือ ปี 2565 จับกุม 2 ครั้ง ก่อเหตุในเขตพื้นที่ อ.เมือง จ.หนองคาย และ อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูได้รับความเสียหายรวมประมาณ 70,000 บาท และ ปี 2566 จับกุม 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 โดยก่อเหตุในเขต อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูได้รับความเสียหายประมาณ 40,000 บาท
การกระทำในลักษณะนี้เป็นการเอาเปรียบเกษตรกรผู้เลี้ยงที่ได้ลงทุนลงในการเลี้ยงหมูจนโตและขายได้ กรมฯสั่งการให้กองชั่งตวงวัด บูรณาการร่วมกับ บก.ปคบ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมปราบปราบอย่างจริงจัง เมื่อพบผิดก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
สำหรับการจับกุมตาม พ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัดฯ ในปีนี้ รวม 285 คดี แบ่งเป็น ใช้เครื่องชั่งที่ไม่มีคำรับรอง 197 คดี เครื่องชั่งไม่เที่ยงตรง 23 คดี เครื่องชั่งเสื่อมสภาพ 10 คดี โกงเครื่องชั่ง 4 คดี บรรจุปริมาณไม่ครบตามที่แสดง 36 คดี ไม่แสดงปริมาณบนสินค้าหีบห่อ 1 ราย และ ไม่ปฏิบัติตามประกาศที่เกี่ยวข้อง 14 คดี