เป็นที่จับตามาโดยตลอด เมื่อคนในตระกูลชินวัตรขยับตัว พลันที่ “แพทองธาร ชินวัตร” กระโดดลงสู่สนามการเมือง และทำงานในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ช่วยพรรคเพื่อไทย รณรงค์หาเสียงสู้ศึกเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 พร้อมพ่วงตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยไปด้วย
การประชุมวิสามัญเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
การประชุมวิสามัญเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
แม้ว่าจะไม่บรรลุเป้าหมายแลนด์สไลด์ นำพาเพื่อไทยเข้าวินเป็นพรรคอันดับ 1 แต่พรรคเพื่อไทยก็ฉีกตอก “ข้าวต้มมัด” ที่เคยจับมือกับพรรคก้าวไกล พลิกข้ามขั้วมาจัดตั้งรัฐบาล และผลักดัน “นายเศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกฯ ในห้วงที่ “อุ๊งอิ๊ง” อยู่ระหว่างการพักฟื้นหลังคลอดบุตรคนที่ 2
ด้วยเหตุสลับขั้วตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคขั้วรัฐบาลเดิมทั้ง "รวมไทยสร้างชาติ" "พลังประชารัฐ" และ "ภูมิใจไทย" จนทำให้ “หมอชนน่าน” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในช่วง 3 ปีล่าสุด ต้องลาออกจากตำแหน่ง
มติที่ประชมเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่
มติที่ประชมเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่
จนนำมาสู่การหวนคืนสู่เก้าอี้ผู้นำพรรคการเมืองของคนตระกูลชินวัตร อีกครั้งในรอบเกือบ 16 ปี หลังเครือญาติ คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เมื่อปี 51 ต่อมาในยุคของพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ไม่ขอรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลังพรรคพลังประชาชนถูกยุบ และเป็นนายยงยุทธ์ วิชัยดิษฐ ที่ทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
กระทั่ง นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับไทย ในรอบ 17 ปีเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงเรียกได้ว่า “ตระกูลชินวัตร” กลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งในสนามการเมือง
พรรคไทยรักไทย เมื่อครั้งที่มี นายทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค
พรรคไทยรักไทย เมื่อครั้งที่มี นายทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค
จึงไม่แปลกที่เมื่อถึงคราวเปลี่ยนผู้นำพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ ชื่อของ “แพทองธาร” จึงนอนมาตั้งแต่พระยังไม่ขึ้นธรรมมาสเทศน์ เพราะบรรดาแกนนำภายในพรรคต่างประสานเสียงเห็นด้วย และมองว่าเหมาะสมที่จะให้ “อุ๊งอิ๊ง” ขึ้นเป็นผู้นำพรรคคนใหม่ และผลการประชุมวิสามัญเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ก็เป็นไปตามคาด "อุ๊งอิ๊ง" ผงาดนั่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่อย่างสง่างาม
นอกเหนือจาก “อุ๊งอิ๊ง” แล้ว บรรดากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็มีบุคคลที่น่าสนใจไม่น้อย นอกจาก “อุ๊งอิ๊ง” ทายาทสายตรง “ทักษิณ” ยังมี บอย “สรวงศ์ เทียนทอง” วัย 48 ปี อดีต รมช.สาธารณสุข สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ บุตรชาย “ป๋าเหนาะ” นายเสนาะ เทียนทอง เจ้าพ่อวังน้ำเขียว ที่ต้องไม่ลืมว่า "ป๋าเหนาะ" นั้นเป็นมือปั้นนายกฯ มาแล้วถึง 3 คน ทั้ง “บิ๊กเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา, “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ชุดใหม่
กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ชุดใหม่
จึงต้องจับตาดูต่อไปว่า "บอย สรวงศ์” จะตามรอยบิดาเป็นมือปั้น หรือ ป๋าดัน นายกฯคนใหม่ให้ “อุ๊งอิ๊ง” เป็นนายกฯคนต่อไปได้หรือไม่
"ป๋าเหนาะ" นายเสนาะ เทียนทอง อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย มาร่วมงานเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
"ป๋าเหนาะ" นายเสนาะ เทียนทอง อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย มาร่วมงานเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
รวมทั้งกรรมการบริหารชุดใหม่ ที่ประกอบไปด้วยนักการเมืองรุ่นใหม่จำนวนมาก ว่าโฉมหน้าการเมืองจากนี้ไปที่จะเป็นเวทีของคนรุ่นใหม่ นั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป น่าติดตามอย่างยิ่ง
มติที่ประชุมเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่
มติที่ประชุมเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่
ตัดภาพมาที่ พรรคประชาธิปัตย์ ที่หลังจากการประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.66 ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เพื่อรับผิดชอบผลการเลือกตั้งที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จนถึงวันนี้ล่วงเลยมาเกือบ 5 เดือนเต็ม ก็ยังไม่มีวี่แววว่า พรรคประชาธิปัตย์จะได้หัวเรือคนใหม่เมื่อไหร่
ขณะที่ ความเคลื่อนไหวในการช่วยเหลือแรงงานไทยที่ทำงานที่ประเทศอิสราเอล ล่าสุด นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ส่งทีมเจรจากับผู้แทนฮามาสประจำกรุงเตหะรานประเทศอิหร่าน เพื่อช่วยเหลือคนไทยในอิสราเอล โดยคณะทำงานก็แย้มว่า การเจรจาเป็นไปด้วยความราบรื่นและน่าจะมี "ข่าวดี" ซึ่งก็ถือเป็นการวัดฝีมือพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาชาติ ว่าจะช่วยให้ “รัฐนาวาเศรษฐา” คลี่คลายสถานการณ์กรณีคนไทยถูกจับเป็นตัวประกันได้หรือไม่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“แพทองธาร” ย้ำแนวทางเพื่อไทย “ตายังดูดาว เท้ายังติดดิน”
มติเพื่อไทย เลือก "แพทองธาร" หัวหน้าพรรคคนใหม่
บทวิเคราะห์ : มากกว่า“อุ๊งอิ๊ง”นั่งหัวหน้าครอบครัว”เพื่อไทย”
ทีมงาน "วันนอร์" บินอิหร่าน ถกผู้แทนฮามาสเจรจาปล่อยตัวประกันชาวไทย
จับกระแสการเมือง : วันที่ 26 ต.ค.2566 ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ใครขีดเส้นแบ่ง "จน-รวย"
ขึ้นหัวหน้าพรรคตามคาด ดาบสองคมของ “อุ๊งอิ๊ง”