วันนี้ (25 ต.ค.2566) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอส เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกชาร์จตัว นายวีระชาติ รัศมี นายกเทศมนตรีตำบลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี พร้อมปลัดฯ และ ผอ.กองช่าง กับพวกรวม 5 คน ขู่เรียกรับสินบนจากผู้ประกอบการ โครงการสร้างประปาหมู่บ้าน พร้อม ยึดของกลางเงินสดกว่า 600,000 บาท
นายอนุทิน กล่าวว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แสดงว่าเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานเห็นพ้องต้องกันว่า การจำกัดบทบาทของผู้มีอิทธิพล เป็นนโยบายที่ทุกฝ่ายต้องการทำให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ทั้งเรื่องของการจับผู้กระทำผิด รวมถึงการฮั้วประมูล เป็นหน้าที่ของตำรวจเป็นหลักอยู่แล้วสิ่งที่สำคัญเห็นไหมว่าไม่มีการช่วยเหลือใดๆ
ดังนั้น คำว่าอิทธิพลตอนนี้ แปลว่าอะไรถ้ามีอิทธิพล จึงต้องเอาตัวรอดไม่โดนจับ นี่เป็นบทพิสูจน์แล้วว่าใครก็ช่วยไม่ได้ถ้าทำผิดกฎหมาย ไม่มีใครกล้าช่วยด้วย
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย
นายอนุทิน ยังกล่าวถึง ทางกระทรวงมหาดไทยเข้มเรื่องมาตรการป้องกันการทุจริตมาโดยตลอด อย่างการทำผิดกฎหมาย มันไม่ต้องยกระดับอะไร ภารกิจของกระทรวงมหาดไทยหรือฝ่ายความมั่นคง ต้องปราบปรามการกระทำที่ผิดกฎหมายอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ
ไม่ใช่แค่เป็นนโยบายของผม แต่ว่าเป็นนโยบายของรัฐบาล ไม่ใช่แค่นโยบายของนายอนุทินเท่านั้น เป็นข้อสั่งการของรัฐบาลตั้งแต่เข้ามาว่าไม่ให้มีเรื่องพวกนี้
ทั้งนี้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นลูกเขยของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ไม่ใช่คนใกล้ตัว และเมื่อเกิดเรื่องนายชาดาได้โทรศัพท์มารายงานแล้ว
เขาเป็นแค่ลูกเขย เขาเลือกกันเอง พ่อตาเป็นได้อย่างมากก็เป็นคนรับสินสอดทองหมั้นเท่านั้น จะไปสั่งอะไรลูกเขยได้
สำหรับในฐานะเป็น รมว.มหาดไทย จะกำชับอย่างไร และเรื่องโครงการจัดซื้อจัดจ้าง นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่ต้องกำชับอะไร เพราะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย คนที่ทำผิดกฎหมายคือเป็นคนที่ตั้งใจจะทำผิดกฎหมาย
ถ้าทำแล้ว เมื่อจับได้ก็มีการตรวจโทรศัพท์ ก็จะเห็นการเชื่อมโยงกัน ดังนั้น ถ้ายังโง่อยู่ ยังเซ่ออยู่ ก็ช่วยไม่ได้ ก็ต้องโดนแบบนี้ คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด คนฉลาดก็คือ ตำรวจเจ้าหน้าที่บ้านเมือง
สมน้ำหน้า ดีแล้วไง ว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายชัดเจนไหมล่ะ โดนไล่จับที มาวิ่งหนีแบบนี้ มันนักเลงตรงไหน ไม่เห็นมีท่าอะไรเลย
นายอนุทิน กล่าวทิ้งท้ายว่า ขอชื่นชมทุกคนที่ทำงานทุ่มเทอย่างเสียสละ ทำให้เกิดกระแสเกิดความตื่นตัว และตอนนี้ทุกฝ่ายที่ดำเนินการจับกุม ก็เคยมาพบกันที่ กระทรวงมหาดไทย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ทำความเข้าใจกัน พูดถึงเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เรื่องอาวุธปืน
ถ้ากระทรวงมหาดไทย ดำเนินการเองก็จะสู้ตำรวจไม่ได้ ในภารกิจนี้ ที่ถือว่าเป็นนโยบายเป็นข้อสั่งการของรัฐบาลก็ช่วยกันทำแบบนี้ อย่างน้อยก็ช่วยลดจำนวนทำให้ความชุกในเรื่องทุจริตแบบนี้มันลดน้อยลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ให้ประกัน 4 แสน "ลูกเขยชาดา" รอฟัง มท.3 แถลงวันนี้
"อนุทิน" เผย "ชาดา" ไม่ก้าวก่าย ปมลูกเขยรับสินบน
จับกระแสการเมือง : วันที่ 24 ต.ค. 2566 จับลูกเขย “ชาดา ไทยเศรษฐ์” หยิกเล็บ เจ็บเนื้อ
แถลงจับ "ลูกเขยชาดา" พร้อมพวกรวม 5 คน เรียกรับสินบนผู้รับเหมา