วันนี้ (16 ต.ค.2566) นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ (กต.) กล่าวถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันในสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ว่า การช่วยเหลือตัวประกันมีสัญญาณบวก โดยยืนยันว่าทางการไทยได้ประสานงานกับทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายของอิสราเอล ที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับชาวต่างชาติ รวมถึงคนไทย และประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง ที่มีความสนิทสนมและคุ้นเคยกับทางปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาส
ล่าสุดมีการส่งข่าวมาว่า แนวโน้มปล่อยตัวประกันมีสูงมาก
ส่วนการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต ในภาวะสงครามเช่นนี้ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามจะพยายามเร่งให้ทางการอิสราเอลดูแลในส่วนของประเทศไทยก่อน เพราะได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งทางการอิสราเอลรับปากแล้วว่าจะเร่งดำเนินการให้
อ่านข่าว : "คนไทย" เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน เร่งอพยพ 7,000 คนจากอิสราเอล ภายใน ต.ค.นี้
รมว.ต่างประเทศ ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งเรื่องการอพยพคนไทย การช่วยเหลือตัวประกันและการติดตามผู้เสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำงานเกือบ 24 ชั่วโมง ภายใต้ความเสี่ยงและความกดดันที่มีมาก ดังนั้นจึงขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ โดยจะทำให้ดีที่สุดและนำคนไทยกลับมาสู่ที่ปลอดภัย
ส่วนกรณีที่มีแรงงานอยากเดินทางกลับไทย แต่ติดปัญหาเรื่องนายจ้างยึดพาสปอร์ตทำให้ไม่สามารถเดินทางกลับได้นั้น นายปานปรีย์ ระบุว่า นายกฯ ได้สั่งการให้ผ่านขั้นตอนเรื่องเอกสารในภาวะสงครามเช่นนี้ ซึ่ง กต.ได้ตั้งระบบให้สามารถออกพาสปอร์ตให้คนไทยได้ทันที ไม่ว่าผู้เดินทางรายนั้นจะเคยมีบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตของตัวเองหรือไม่ เพื่อให้สามารถกลับไทยได้โดยเร็ว
รมว.ต่างประเทศ ยังกล่าวถึงเรื่องสถานเอกอัครราชทูตไทยในฝรั่งเศส ได้ประกาศแจ้งเตือนให้คนไทยที่อยู่ในฝรั่งเศสและนักท่องเที่ยวระมัดระวัง เพราะมีข้อมูลว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยจากกรณีผลกระทบการสู้รบในอิสราเอล ว่า กต.ได้แจ้งไปยังสถานทูตทุกแห่งและขอให้คนไทยในทุกประเทศระมัดระวังตัว แม้จะไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก็ตาม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ช้าไปใช่หรือไม่? หลายปัจจัยอพยพแรงงานไทยออกจากอิสราเอล
กองทัพอิสราเอลรอสัญญาณ "บุกภาคพื้นดิน" เข้าเขตกาซา