ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สธ.คัดกรอง 15 แรงงานไม่พบป่วย-จิตใจยังดี ทุกคนขอกลับบ้าน

สังคม
12 ต.ค. 66
17:59
379
Logo Thai PBS
สธ.คัดกรอง 15 แรงงานไม่พบป่วย-จิตใจยังดี ทุกคนขอกลับบ้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
สถาบันบำราศนราดูรตรวจคัดกรองและประเมินสภาพจิตใจแรงงานไทย 15 คนกลับจากอิสราเอล ไม่พบอาการป่วย-จิตใจเข้มแข็ง ส่วนผู้บาดเจ็บอาการไม่รุนแรงและทุกคนต้องการกลับภูมิเนา

วันนี้ (12 ต.ค.2566) นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า แรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอลทั้ง 15 คน เข้ารับการคัดกรองที่ศูนย์ Quarantine Center ที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อตรวจสภาพร่างกายเบื้องต้น การบาดเจ็บและสภาพจิตใจ พร้อมรับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากกระทรวงแรงงานและกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

สำหรับผลการคัดกรองพบว่าทั้ง 15 คนไม่มีอาการป่วย ประกอบกับแรงงานทั้งหมดต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาพร้อมญาติ ซึ่งทาง พม.ได้จัดบริการรถส่งถึงบ้าน ส่วนผู้บาดเจ็บ 2 คนที่ถูกยิงเข่าและขา เบื้องต้นได้รับการเอ็กซเรย์และตรวจที่สถาบันบำราศนราดูร ไม่พบอาการรุนแรง จึงไม่ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลราชวิถี อีกทั้งเจ้าตัวและญาติต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนา จึงทำให้ไม่มีผู้ป่วยคงค้างที่สถาบันบำราศนราดูร

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า จากการพูดคุยและประเมินผู้ที่เดินทางกลับมาทั้งหมด พบว่ามีจิตใจเข้มแข็ง แต่อย่างไรก็ตามการประเมินสภาพจิตใจยังต้องดำเนินการต่อเนื่อง โดยมอบหมายให้กรมสุขภาพจิตและทีม MCATT คัดกรองสภาพจิตใจต่อในพื้นที่เป็นระยะเวลา 3 เดือน เนื่องจากภาวะความเครียดอาจยังไม่แสดงอาการทันที ส่วนญาติของแรงงานไทยที่ไม่รู้ชะตากรรมว่าถูกจับเป็นตัวประกันหรือเสียชีวิตนั้น เบื้องต้นได้ประสานทีม MCATT ติดตามเช่นกัน

อ่านข่าว : อบอุ่น! กลับสู่อ้อมกอดครอบครัว 15 แรงงานไทยหนีสงคราม

ก.แรงงาน มอบเงินช่วยสมาชิกกองทุนฯ

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าแรงงานทั้ง 15 คนเป็นสมาชิกในกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากสงคราม แรงงานที่ขึ้นทะเบียนและเดินทางไปทำงานอย่างถูกกฎหมายตามที่รัฐบาลไทยทำ MOU ร่วมกับรัฐบาลอิสราเอล หากเดินทางกลับประเทศเนื่องจากภาวะสงครามจะได้รับเงินสงเคราะห์ 15,000 บาท, พิการ 15,000 บาท, ทุพพลภาพ 30,000 บาท, เสียชีวิต 40,000 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่างประเทศ จ่ายตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์จากทางการอิสราเอล National Insurance Institute กรณีบาดเจ็บหรือพิการ หากบาดเจ็บ 0-10% ไม่ได้รับค่าตอบแทน, บาดเจ็บ 10-19% ได้รับเงินก้อนเดียว ไม่เกิน 150,000 เชคเกล (ประมาณ 1,440,000 บาท), บาดเจ็บเกิน 20% ได้เงินรายเดือนทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต โดยคำนวณตามเปอร์เซ็นต์สูญเสีย

และกรณีเสียชีวิต ภรรยาและบุตรของผู้เสียชีวิตทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกเดือน จนภรรยาจะแต่งงานใหม่ หรือลูกมีอายุครบ 18 ปี โดยภรรยาจะได้รับเงินสงเคราะห์ 60% ของ 6,000 เชคเกลทุกเดือน (ประมาณ 34,560 บาทต่อเดือน) ส่วนบุตรอายุไม่เกิน 18 ปี จะได้รับเงินสงเคราะห์ 10-20% ของ 6,000 เชคเกลทุกเดือน (ประมาณ 5,760-11,520 บาทต่อเดือน)

ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า จากการพูดคุยกับแรงงานส่วนใหญ่พบว่าไม่ประสงค์จะเดินทางกลับไปอิสราเอลอีก และต้องการให้กระทรวงแรงงานหาพื้นที่ประเทศอื่นให้ได้ทำงานต่อ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เป็นต้น แต่ทางการอิสราเอล แจ้งว่า หากแรงงานต้องการกลับไปทำงานที่อิสราเอลก็สามารถทำได้ โดยใช้สัญญาเดิม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใหม่

ส่วนการช่วยเหลือแรงงานไทยในล็อตถัด เตรียมหารือร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับรูปแบบของการเดินทางว่าจะใช้สายการบินพาณิชย์ไปรับ หรือส่งต่อยังจุดใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กต.แจงปมนำศพแรงงานไทยกลับ-เร่งประสานอิสราเอล

ไม่อยากให้กลับไปทำงาน! ภรรยาห่วงอันตรายสามีถูกยิงขาบาดเจ็บ

สภาทนายความ ตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมาย "แรงงานไทย" ในอิสราเอล

3 สายการบินพร้อมปฏิบัติการรับแรงงานไทยกลับประเทศ พร้อมเดินทางใน 3 วั

ข่าวที่เกี่ยวข้อง