วันนี้ (4 ต.ค.2566) พนักงานสอบสวน ผู้ร้อง นำเยาวชนชายอายุ 14 ปี แสดงตัวต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง พร้อมยื่นคำร้องตรวจสอบการจับกุมตัว หลังถูกจับภายใน 24 ชั่วโมง ตามขั้นตอน พ.ร.บ.ศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัวพ.ศ.2553
โดยศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ดำเนินการตรวจสอบการจับกุมแล้ว มีคำสั่งว่าศาลพิเคราะห์ข้อเท็จจริงจากการสอบผู้ร้องและตรวจเอกสารของผู้ร้องแล้ว เห็นว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดจริง เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมพบผู้ต้องหา ในขณะกระทำผิดจึงจับกุมตัวซึ่งเป็นความผิดซึ่งหน้า การจับเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการปฏิบัติของเจ้าพนักงานตำรวจไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อ่าน : ย้อนรอย! ปูมหลังเยาวชนก่อเหตุกราดยิงในสหรัฐฯ
ส่วนที่ขอให้ศาลส่งตัวผู้ต้องหาไปให้แพทย์จิตเวช สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ เพื่อรักษาจนกว่าผู้ต้องหาจะสามารถต่อสู้คดีได้นั้น พนักงานสอบสวนก็ไม่ได้นำแพทย์ผู้ทำความเห็นมาให้ศาลได้สอบถาม หรือไต่สวนให้ฟังได้ว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตจริง
ดังนั้นข้อเท็จจริง จึงยังไม่ยุติว่าผู้ต้องหามีอาการป่วยทางจิตเวช และเนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาอาจเป็นภัยร้ายแรงต่อผู้อื่น จึงเห็นควรส่งตัวไปควบคุมไว้ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และให้สถานพินิจฯ ดำเนินการตรวจสอบสภาพจิตใจของผู้ต้องหา ให้หมายควบคุมเว้นแต่มีประกัน
โดยวันนี้ไม่ปรากฏว่า ผู้ปกครองยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวเยาวชน แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงส่งตัวเยาวชนไปยังสถานพินิจฯ ตามคำสั่งศาลแล้ว
ที่มา : สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร
DJOP แถลงแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสีย
วันนี้ (4 ต.ค.2566) กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต ครอบครัวผู้สูญเสีย และผู้ประสบเหตุและได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค.2566 ณ ห้างสยามพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้เด็กอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบการจับกุมของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เมื่อขั้นตอนดังกล่าวแล้วเสร็จจะเข้าสู่การดำเนินการของกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร จะเป็นหน่วยงานดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมเด็กและเยาวชนต่อไป
อ่าน : "หมอยงยุทธ" จี้ สางพ.ร.บ.อาวุธปืน พบถือครอง 12 ล้านกระบอก
ซึ่งวิธีการดำเนินการนั้นจะใช้วิธีการสำหรับเด็กและเยาวชนแทนการลงโทษทางอาญาแบบผู้ใหญ่ สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจะทำการค้นหาและรวบรวมข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับเด็กและจัดให้มีการคุ้มครองด้วยวิธีที่เหมาะสม
ในกรณีที่เด็กได้รับการ "ปล่อยตัวชั่วคราว" จะส่งมอบเด็กให้กับผู้ปกครอง และให้ผู้ปกครองพาเด็กไปพบเจ้าพนักงานพินิจของสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร เพื่อทำหน้าที่สืบเสาะข้อเท็จจริงและแสวงหาข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุของการกระทำผิด และรายงานต่อศาลเพื่อประกอบการพิจารณา
หากกรณีเด็ก "ไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว" เด็กจะถูกส่งไปควบคุมตัวที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร ในระหว่างควบคุมตัวหากประเมินแล้วพบว่าเด็กมีปัญหาสุขภาพกาย หรือสุขภาพจิต อันเป็นการไม่เหมาะสมต่อการควบคุมดูแลในสถานควบคุม สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานครจะรายงานต่อศาลเพื่อประกอบการพิจารณาการควบคุมตัว และวิธีการดำเนินการที่เหมาะสมกับเด็กในระหว่างรอการพิจารณาคดี
อ่าน : นักอาชญาวิทยา เตือนระวัง Kick off รุนแรงซ้ำรอย
สำหรับการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว และส่งต่อภาพที่มีการเปิดเผยอัตลักษณ์ของเด็กที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดนั้น กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจึงขอความร่วมมือหยุดเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิในความเป็นส่วนตัว อันเป็นการกระทำการละเมิดกฎหมาย ทั้งยังขัดต่อหลักอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก และ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ซึ่งมีโทษระวางจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ที่มา : สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร