"ครม.เศรษฐา" ถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว - ถ่ายรูปหมู่ทำเนียบฯ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่

วันนี้ (5 ก.ย.66) เวลา 13.53 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 34 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ส่องรถหรู "เศรษฐา" ประจำตำแหน่งนายกฯ ราคา 7.5 ล้าน

คณะรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน ถ่ายรูปหมู่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 22 ส.ค. พุทธศักราช 2566 แล้วนั้น บัดนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เลือกสรรผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งรัฐมนตรี จำนวน 34 คน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี แถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาลหลังจากเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ระบุว่า วันนี้ได้นำคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนเรียบร้อยแล้ว โดยจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติราชการต่อไป

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลังการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน เป็นที่เรียบร้อย

พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชน ทุกคนในที่นี้มาเพื่อเป็นตัวแทนของประชาชน มีความตั้งใจและจะทำงานอย่างลืมความเหน็ดเหนื่อย ทุกวัน ทุกนาที จะเอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง เริ่มจากวันที่ 8 ก.ย.นี้ ตนเองจะลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น อุดรธานีและหนองคาย เพื่อพูดคุยและรับฟังปัญหาของประชาชน และในวันที่ 11 ก.ย.จะแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา

รัฐบาลนี้จะสร้างความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดินในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ด้วยการฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข็มแข็ง มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ภายใต้หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน รัฐบาลจะสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้กับประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเปลี่ยนผ่านไปสู่ประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนในอนาคต

สำหรับการประชุม ครม.นัดพิเศษ จะเป็นการพูดคุยเพื่อเตรียมตัวแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ในวันที่ 11 ก.ย.นี้ ส่วนเรื่องเศรษฐกิจ ยืนยันว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนในรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญ แต่ขอนำไปพูดคุยกันเองภายในพรรคร่วมรัฐบาลก่อนและจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนทราบปัญหาและคิดว่าไม่เป็นอุปสรรคในการบริหารราชการ พร้อมย้ำว่า "อะไรทำได้ก่อน เราจะทำทันที"

ทั้งนี้เชื่อว่า รัฐมนตรีทุกคนเข้าใจและตระหนักถึงปัญหาของประชาชนเป็นอย่างดี จึงอยากขอโอกาสให้รัฐมนตรีทุกคนได้ทำงานก่อน

เมื่อถามถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท นายเศรษฐา ระบุว่า จะพยายามทำให้ได้โดยเร็วที่สุด คาดว่าไม่เกินไตรมาส 1 ในปี 2567 โดยจะแจกงวดเดียว หนเดียว

พร้อมยอมรับว่า ปัญหาปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ที่ประเทศกำลังเผชิญ ขณะเดียวกันก็มั่นใจว่าในทุก ๆ วัน รัฐมนตรีทุกคนจะทำงานอย่างหนักและพยายามเข็นนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน บางอย่างทำได้เร็ว บางอย่างอาจทำได้ช้า แต่จะไม่เอามาเป็นข้ออ้างในการที่จะไม่ทำทั้งหมด

อะไรทำได้เร็ว เราจะรีบทำก่อน

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในรัฐบาลนี้ว่ามีความตั้งใจจริง และตระหนักดีถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป้นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องความแตกแยกทางความคิด ซึ่งรัฐบาลจะให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียม พยายามเดินไปข้างหน้าและจัดการกับปัญหาเหล่านี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด