ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.2566) เวลา 10.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมพวก 6 คน ต้องเดินทางไปฟังคำพิพากษาที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อรับฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ ในคดีร่วมกันกระทำผิดต่อหน้าที่ราชการในการจัดจ้างโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน และโครงการก่อสร้างอาคารที่พัก หรือแฟลตตำรวจ จำนวน 396 แห่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อคดี "ฮั้วประมูลก่อสร้างโรงพัก 396 แห่ง" ซึ่งเป็นคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
จำเลย 6 คน ประกอบด้วย นายสุเทพ, พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ต.สัจจะ คชหิรัญ, พ.ต.ท.สุริยา แจ้งสุวรรณ์, บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด และนายวิศณุ วิเศษสิงห์
คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้อง ระบุพฤติการณ์โดยสรุปว่า ระหว่างวันที่ 9 มิ.ย.2552-18 เม.ย.2556 จำเลยที่ 1 นายสุเทพ และจำเลยที่ 2 พล.ต.อ.ปทีป ได้เปลี่ยนแปลงแนวทางจัดซื้อจัดจ้างโครงการก่อสร้างโรงพักทดแทน จำนวน 396 แห่ง จากราคาภาคแยกสัญญา เป็นการรวมจัดจ้างก่อสร้างไว้ที่ส่วนกลางสัญญาเดียว จึงขอให้ลงโทษฐานละเว้นการปฏิบัตหน้าที่ตามมาตรา 157
ส่วน พล.ต.ต.สัจจะ และ พ.ต.ท.สุริยา ฟ้องในความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ในฐานะคณะกรรมการประกวดราคา ไม่ตรวจสอบราคาที่ผิดปกติ ขณะที่บริษัท พีซีซี ดีเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ถูกฟ้องในฐาะเป็นผู้ชนะการประกวดราคา แต่ก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญา เป็นเหตุให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียหาย
ด้านจำเลยที่ 6 นายวิศณุ ยื่นเอกสารบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา ได้เสนอราคาต่ำอย่างผิดปกติ ฟ้องในฐานะผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำตัดสินชั้นต้นไปแล้ว โดยพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 6 คน หากในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คือ ยกฟ้องจำเลยทั้ง 6 คน ก็จะเป็นการยืนยันการหลุดพ้นข้อกล่าวหาของนายสุเทพกับพวกอีกครั้ง
แต่หากศาลพิพากษากลับ ลงโทษจำคุกกลุ่มจำเลย นายสุเทพก็จะถูกคุมตัวเข้าเรือนจำ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายทักษิณ ชินวัตร จะถูกส่งตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเช่นกัน