ความปั่นป่วนทั่วโลก จากกำแพงภาษีสหรัฐฯ นักเศรษฐศาสตร์มองแรงกดดันย้อนกลับไปที่ "ทรัมป์" และกำลังเป็นแรงกดดันทางการเมืองด้วย ขณะที่เตรียมประกาศเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาครั้งใหญ่ในเร็วๆ นี้ หวังช่วยกดดันบริษัทยาต่างๆ ให้ย้ายฐานการผลิตเข้าสู่สหรัฐฯ
วันนี้ความปั่นป่วนทั่วโลก เกิดทั้งตลาดทุน หุ้น และภาคเศรษฐกิจ ที่อาจยังไม่รู้ทางลง ทางออก หรือบรรเทาได้ตอนไหน หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีจากการนำเข้าสินค้าจากหลายสิบประเทศทั่วโลกในอัตราที่สูงกว่า 10%
อ่านข่าว : ไทม์ไลน์ 2 มหาอำนาจ "สหรัฐอเมริกา-จีน" งัดข้อตั้งกำแพงภาษี
กรณีที่จีนตอบโต้กลับจนส่งผลให้ภาษีนำเข้าจากจีนอาจพุ่งเป็น 104% ก่อนหน้านี้ที่สหรัฐฯ ปรับอัตราภาษีพื้นฐานสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเป็น 54 เปอร์เซ็นต์ แค่นี้ ไอโฟน ผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้สูงสุดของแอปเปิลเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นรายได้ทั้งหมด และส่วนใหญ่ผลิตในจีน ราคาจะพุ่งแค่ไหน ประเมินว่าตัวท็อปอาจเกือบ 80,000 บาท ถ้าขายแบบบวกภาษีเข้าไป จะขายยังไงไหว และสหรัฐฯ เองก็เหมือนหยิกเล็บเจ็บเนื้อ
อ่านข่าว : ถึงกำหนด 9 เม.ย. "ทรัมป์" รีดภาษีนานาชาติ ไม่อ่อนข้อ "จีน" ขึ้น 104%
นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร มองว่า แรงกดดันตอนนี้กลับไปที่ทรัมป์ไม่น้อย และกำลังเป็นแรงกดดันทางการเมืองด้วย เชื่อว่าคะแนนความนิยมของทรัมป์จะลดลงไปเรื่อยๆ อย่างอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีคนสนิทของทรัมป์ ได้แสดงความคิดเห็นให้ลดภาษีลงมา และคนข้างกายจะเจ็บขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีการลงทุนในตลาดหุ้นหมด และที่สำคัญที่สุดคือคะแนนความนิยมของพรรครีพับลิกัน เพราะสิ้นปีหน้าจะมี Midterm election เพราะถ้าคะแนนนิยมแย่และจะทำให้แพ้Midterm election
คำถามคือเศรษฐกิจโลก ถ้าต้องทนไปอีก 1 ปีครึ่ง เห็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจโลกจะทนได้จริงไหม
มองแค่ในมุมสหรัฐฯ อาจเป็นทางเดียวที่ทรัมป์ จะนำรายได้กลับคืนสู่สหรัฐฯ ในฐานะประเทศที่ขาดดุลมากที่สุดในโลก ปีละ 1.2 ล้านดอลลาร์สรัฐฯ ซึ่งต่างจากประเทศอื่นที่ถูกปรับภาษีส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ได้ดุลการค้าทั้งนั้น โดยเฉพาะจีน รวมทั้งไทย ไม่แปลกที่ธงของทรัมป์จึงพุ่งเป้าแบบนี้

5 เป้าหมาย "ทรัมป์" ต้องการ
1.ซื้อสินค้าสหรัฐฯ เพิ่ม
2.ต้องไม่ให้จีนสวมสิทธิ์ส่งออก
3.ลดข้อกีดกันทางการค้าให้กับสหรัฐ
4.ลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มเติม
5.ยอมเปิดทางให้สินค้าสหรัฐฯ เข้ามา
ดังนั้น 5 ข้อนี้จึงเป็นแนวทางเจรจา โดยเฉพาะข้อ 5 ที่เป็นไม้เด็ดและทำให้ไทยลำบากใจ คือเลือกที่จะปกป้องสินค้าของประเทศ หรือ เลือกที่จะยอมบรรเทาภาษีที่เกิดขึ้นกับสินค้าหลายๆ ชนิดที่ส่งไปสหรัฐฯ
สิ่งที่ต้องการคือให้เลือกส่งออก ยื่นไม้ตายมาให้มาให้เรา สิ่งต้องรีบไปเจรจาเพื่อทดสอบว่าเป้าหมายจริงๆ ของทรัมป์ คืออะไร เกิดยื่นข้อเสนอไปแล้วไม่ตรงจะไม่เป็นประโยชน์ ด้านหนึ่งการเจรจาเกิดขึ้นกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเจรจากับนอกประเทศ แต่ไทยเตรียมการเจรจาเบื้องหลังไว้ด้วยคือ การเจรจากับกลุ่มต่างๆ ภายในประเทศ ที่จะได้รับผลกระทบจะเยียวยาอย่างไร

"ทรัมป์" เตรียมเก็บภาษีนำเข้ายาครั้งใหญ่
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เตรียมประกาศเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยาครั้งใหญ่ในเร็วๆ นี้ โดยให้เหตุผลว่า จะช่วยกดดันบริษัทยาต่างๆ ให้ย้ายฐานการผลิตเข้าสู่สหรัฐฯ
ยาถือเป็นหนึ่งในสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจากมาตรการภาษีนำเข้า ที่ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งฐานการผลิตยาส่วนใหญ่ในปัจจุบันอยู่ที่จีน อินเดีย ออสเตรเลียและยุโรป ทำให้ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนกังวลว่า การขึ้นภาษีผลิตภัณฑ์ยาจะส่งผลให้ราคายาในตลาดสูงขึ้นด้วย
อ่านข่าว :
"สหรัฐฯ-จีน" เปิดสงครามการค้า ยก 2 ?
"สงครามการค้า" ทรัมป์ ขยี้ตลาดเงิน-ทองคำ-หุ้น สะเทือนลงทุนโลก
กลยุทธ์ไทยโต้ภาษี "ทรัมป์" นักวิชาการแนะอาเซียนผนึกกำลังต่อรอง