วันนี้ ( 21 ก.ค.2566 ) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ชี้แจงข้อสงสัยการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า มีบางประเด็นที่ยังมีการเข้าใจไม่ตรงกัน และบางประเด็นเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของตนเอง จึงขอชี้แจงดังนี้
ประการแรก การประชุมในวันที่ 19 ก.ค.เป็นการประชุมรัฐสภา เพื่อเชิญเข้ามาในวาระการเลือกนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ ม.272 ซึ่งมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน โดยมีบางฝ่ายเห็นว่า การประชุมในวันที่ 19 ก.ค.ไม่ควรเสนอชื่อซ้ำเพราะขัดกับข้อบังคับข้อที่ 41 กรณีเสนอญัตติซ้ำ
ขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่า การเสนอเลือกนายกฯไม่ใช่ญัตติปกติทั่วไป เพราะการเสนอนายกฯเป็นการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 และข้อบังคับของสภาฯ พ.ศ.2563 ซึ่งออกมาเป็นพิเศษ สำหรับกระบวนการเลือกนายกฯโดยใช้ข้อบังคับที่ 136, 137, 138 และ 139 ซึ่งไม่ควรใช้ข้อบังคับ 41 หรือ ควรจะใช้หมวด 9 ของรัฐธรรมนูญ
ต่อมาจึงเชิญให้วิป 3 ฝ่าย และ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล และทั้ง 10 พรรคการเมือง มาประชุมร่วมกันในวันที่ 18 ก.ค.ก่อนการประชุมในวันที่ 19 ก.ค.
ก่อนการประชุมวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 18 ก.ค. ตนเองได้นำประเด็นที่เป็นข้อแตกต่างให้คณะกรรมการพิจารณานำเสนอข้อมูลประกอบต่อประธานรัฐสภาและประธานรัฐสภาไปพิจารณาและนำเสนอข้อมูลกลับมา ซึ่งต่อมาคณะกรรมการฯ ก็มีความเห็นแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายเช่นกัน
กระทั่งในวันที่ 18 ก.ค.ในการประชุมวิป 3 ฝ่าย ตนเองได้นำเสนอความเห็นของคณะกรรมการฯ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ต่อที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย โดยที่ประชุมวิป 3 ฝ่ายก็มีความเห็นไม่ตรงกันเช่นกัน เมื่อสรุปไม่ได้จึงต้องไปขอความเห็นในการประชุมในวันที่ 19 ก.ค.
อ่านข่าว "เพื่อไทย" รับยังกังวล ม.112 รอ "ก้าวไกล" เสนอทางออก
นายวันมูหะมัด ยังกล่าวว่า ในการประชุมสภาในวันที่ 19 ก.ค.ตนเองได้เปิดให้สมาชิกใช้เวลาถกเถียงกันเป็นเวลานาน ซึ่งก็ยังไม่ได้ข้อยุติ และต่อมาสมาชิกเสนอให้ใช้ข้อบังคับที่ 151 ซึ่งจะทำให้มีข้อยุติได้ ซึ่งตนเองเห็นว่า ไม่สามารถหาข้อยุติได้จึงใช้ข้อบังคับ 151
การจะตีความว่า ข้อบังคับที่ 41 มีศักดิ์ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญหรือไม่ ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้วินิจฉัย ทางออกจึงใช้ข้อบังคับ 151 มาประกอบการประชุม
ตนเองนั่งฟังการประชุมทังวัน ก็พบว่า ไม่มีสมาชิกในที่ประชุมท่านใดได้แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ซึ่งการที่ประธานจะใช้ดุลพินิจตามข้อบังคับ 41 ประธานไม่สามารถนำความเห็นของตนเองมาใช้ได้ เพราะจะเกิดประเด็นว่า ประธานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ไม่ได้ตั้งใจจะปิดประชุม เพราะวันนั้นหมดวาระแล้ว ประธานวินิจฉัยแล้ว ฟังแล้วทั้งวันไม่มีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงจึงไม่ใช้ดุลพินิจ และที่ประชุมได้ลงมติ 395 ที่เห็นว่าไม่สามารถเสนอชื่อซ้ำได้ ตามข้อบังคับ 41
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวว่า กรณีที่พรรคก้าวไกลจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยมติของรัฐสภานั้นเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ และหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอย่างไรก็จะต้องปฏิบัติตามนั้น
อ่านข่าว "อรรถจักร" ร่อน จม.เปิดผนึกเตือน "วันนอร์" แนะรอบหน้าประกาศผลมติ 19 ก.ค.ขัดรธน.
ทั้งนี้ ได้มีการนัดหารือวิป 3 ฝ่ายในวันที่ 26 ก.ค.นี้ ก่อนที่จะมีการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกฯอีกครั้งในวันที่ 27 ก.ค.นี้
ผมวินิจฉัยแล้วว่าไม่มีข้อมูลที่จะชี้ขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องขัดแย้งข้อบังคับ ซึ่งข้อบังคับของสภา 151 เปิดโอกาสให้ตีความ การที่รัฐสภาตีความ ดีกว่าคนใดคนหนึ่งมาชี้ ถูกมั้ย
นายวันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวว่า ผมปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องแล้ว อย่างดีที่สุด และเป็นกลาง ทัวร์จะลงหรือใครจะคิดเห็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของแต่ละคน พร้อมยึดมั่นเมื่อทำหน้าที่นี้แล้ว ต้องทำอย่างดีที่สุด และเป็นกลางที่สุด คือทำหน้าที่ให้ถูกต้อง และต้องได้นายกฯ ตามที่ประชาชนต้องการ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"เพื่อไทย" รับยังกังวล ม.112 รอ "ก้าวไกล" เสนอทางออก
พลิกนโยบาย "เพื่อไทย" หลัง "ก้าวไกล" เปิดทางนำตั้งรัฐบาล
"อรรถจักร" ร่อน จม.เปิดผนึกเตือน "วันนอร์" แนะรอบหน้าประกาศผลมติ 19 ก.ค.ขัดรธน.