การหารือกันวันนี้ (20 ก.ค.2566) จัดขึ้นที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งตัวแทนเจรจาของก้าวไกลประกอบด้วย เลขาธิการพรรค ชัยธวัช ตุลาธน รองหัวหน้าพรรค ศิริกัญญา ตันสกุล และ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์
ในขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่รัฐสภา ตามกำหนดเดิม สส.ณัฐวุฒิ บัวประทุม จากพรรคก้าวไกล ลุกขึ้นหารือต่อที่ประชุมที่มี ปดิพัทธ์ สันติภาดา ทำหน้าที่เป็นประธานสภาฯ ว่า
พิธา ยังสามารถถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีได้
สส.ณัฐวุฒิ หยิบเอาข้อบังคับการประชุมข้อที่ 41 ที่ถกเถียงกันทั้งวันมาอ้างถึงวรรคท้าย ที่ให้อำนาจประธานรัฐสภาวินิจฉัยหากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป และอ้างถึงคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้ พิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน ว่าศาลยังไม่ได้วินิจฉัยเป็นที่สิ้นสุด นั่นคือ พิธา ยังไม่ได้ถูกวินิจฉัยว่ามีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา
อ่าน : "ชัยธวัช" คาด 1-2 วันถก 8 พรรคร่วมยันต้องสูตรเดิม
"เพื่อไทย" เสียงแตก เรียกร้องสลายขั้ว
หลังการประชุมมีรายงานว่า สส.พรรคเพื่อไทยฝั่งภาคอีสาน มีการจับกลุ่มพูดคุยกันถึงยุทธศาสตร์การจัดตั้งรัฐบาล อาจต้องมีความเปลี่ยนแปลง ต้องตั้งรัฐบาลให้ได้เร็วที่สุด โจทย์ที่ปรากฎคือ อาจถึงขั้นสลายขั้ว 8 พรรคการเมือง กับ 2 ทางออก
- 8 พรรคเดิม กดดันก้าวไกลออกจากกลุ่ม
- ก้าวไกลไม่ต้องออก เพื่อไทยออกจากกลุ่มเอง
ยิ่งหากวันประชุมรัฐสภาครั้งถัดไป พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ เศรษฐา ทวีสิน ที่เชื่อกันว่าเป็น "ตัวจริง" ยิ่งพลาดไม่ได้ เพราะกรณีของ พิธา ชัดเจนแล้วว่าได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ในการเสนอชื่อบุคคลรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีขึ้นมา
เสนอได้ครั้งเดียว หากไม่ผ่านก็เสนอซ้ำไม่ได้
"เศรษฐา" ชัดเจนไม่แตะ ม.112
เศรษฐา ทวีสิน วันนี้เดินทางเข้าร่วมการประชุมของพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลด้วย ซึ่งน่าสนใจว่า เศรษฐา ในฐานะที่เชื่อว่าจะถูกเสนอชื่อครั้งต่อไป มีมุมมองต่อการแก้กฎหมาย ม.112 ยังไง
เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่ว่าเบื้องหลังจะมีเหตุปัจจัยอื่นหรือไม่ ที่ทำให้วุฒิสมาชิกไม่โหวตให้ พิธา แต่เรื่อง ม.112 คือเรื่องที่ถูกหยิบมาใช้อ้างเป็นเหตุผลหลัก โดย เศรษฐากล่าวว่า พรรคที่จะเสนอนายกฯ ครั้งต่อไป เรื่อง ม.112 ต้องไม่อยู่ในการแก้ไขหรือการยกเลิก ไม่งั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก สว.และอีกหลายๆ พรรค
คณิตศาสตร์ค่อนข้างจะพื้นฐานมากๆ เลย นับดูก็รู้ว่าเรื่องอะไรเป็นอะไร