ดูเหมือนว่ายามนี้ไม่ใช่แค่ตำแหน่งประธานสภาฯ ที่ยังดีลไม่จบ และส่อจะกลายเป็นปัญหาของพรรคก้าวไกลที่ต้องเร่งหาทางออกให้ทันก่อนที่จะมีการเปิดประชุมสภาและเลือกประธานสภาฯในวันที่ 4 ก.ค.นี้
แต่ยังมีประเด็นที่พรรคก้าวไกลต้องเร่งแก้ปัญหา เมื่อโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์สนั่นจนติดเทรนทวิตเตอร์กรณี ส.ส.ทำร้ายร่างกายผู้หญิง
เทรนทวิตเตอร์
ส.ส.ก้าวไกลขออภัยทุกคน
ล่าสุดวันนี้ (29 มิ.ย.2566) นายสิริน สงวนสิน ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก Sirin Sanguansin - สิริน สงวนสิน โดยระบุข้อความว่า ผมขออภัยอย่างสูงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ก่อนอื่นต้องขออภัยต่อผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมด และพี่น้องประชาชน ที่ผมออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ที่ปรากฏเป็นข่าวล่าช้า เนื่องจากผมประสบอุบัติเหตุเล็กน้อย ศีรษะแตก จึงใช้เวลาสองวันที่ผ่านมาในการรักษาตัว
ผมเสียใจอย่างมากในสิ่งที่ได้ทำลงไป ผมขออภัยคุณเอ (นามสมมุติ) คุณพ่อคุณแม่ของคุณเอ (นามสมมุติ) และขออภัยพี่น้องประชาชนที่ได้เลือกผมเข้ามาทำหน้าที่ ส.ส. ที่ทำให้ทุกท่านผิดหวัง
เฟซบุ๊ก Sirin Sanguansin - สิริน สงวนสิน
จากนี้ผมยินดีเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย และการสอบสวนวินัยจากพรรคก้าวไกล และจะน้อมรับผลที่ตามมาจากการกระทำที่ปราศจากความยั้งคิดของผมโดยดุษฎี
ทั้งนี้ ผมยืนยันว่า ข่าวที่สื่อนำเสนอรายละเอียดเหตุการณ์ และอ้างว่าผมให้ข้อมูลว่าทำไปเพราะความเป็นห่วงคุณเอ (นามสมมุติ) ทั้งหมดไม่เป็นความจริง ผมและคุณเอยังไม่เคยให้สัมภาษณ์หรือกล่าวถึงเหตุการณ์นี้แม้แต่ครั้งเดียว และไม่เคยคิดจะอ้างว่ากระทำไปด้วยความเป็นห่วง
ผมขอแสดงความสำนึกผิดและขออภัยต่อผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ทุกคนด้วยใจจริง
ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง
ย้อนที่มาก่อนติดเทรน #สสทำร้ายร่างกายผู้หญิง
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวกลายเป็นกระแสโด่งดังโซเชียลเมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง มีการโพสต์ภาพสภาพมีบาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย นอกจากนั้น ยังโพสต์ไอจีสตอรี่ ขณะเข้าแจ้งความที่ สภ.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และมีข้อความระบุว่า "กล้าทำ ก็ต้องกล้ารับนะคะ #สสท่านหนึ่ง"
ด้านพรรคก้าวไกลไม่รีรอ ได้ทวีตข้อความระบุว่า พรรคถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง พรรคได้ติดต่อไปยังผู้แจ้งความแล้วเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม และจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการวินัยพรรคโดยเร็วที่สุด เบื้องต้นทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยไกล่เกลี่ยกันไปแล้ว และฝ่ายชายจะโพสต์ชี้แจงผ่านช่องทางออนไลน์อีกครั้ง
จากกรณีที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล ถูกแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย พรรคก้าวไกลถือว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องร้ายแรง พรรคได้ติดต่อไปยังผู้แจ้งความแล้วเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม และจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการวินัยพรรคโดยเร็วที่สุด
— พรรคก้าวไกล - Move Forward Party (@MFPThailand) June 28, 2023
อ่านข่าว : "ก้าวไกล" รับลูกสอบปม หญิงอ้างถูก ส.ส.ทำร้ายร่างกาย
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุว่า ผมในฐานะประธานคณะกรรมการวินัยพรรคฯ ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นแล้ว และจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในคณะกรรมการวินัยฯ อย่างเร็วที่สุด โดยจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และภายใต้การเคารพต่อสิทธิของผู้เสียหายเป็นหลักครับ
สำหรับกรณีดังกล่าวจะส่งผลให้มีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ล่าสุด นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นั้นตอนนี้ยังเป็นขั้นตอนการกล่าวหา ซึ่งหาก ส.ส. คนดังกล่าว แสดงเจตจำนงลาออก หรือ คดีสิ้นสุดตามกฎหมาย กกต. จึงจะสั่งดำเนินการจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่หากพรรคก้าวไกลมีมติขับออกจากพรรค ส.ส. ก็ต้องหาพรรคการเมืองสังกัดใหม่ภายใน 30 วัน
ส่วนจะเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งในการจัดเลือกตั้งใหม่หรือไม่นั้น จะต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกล่าวย้ำว่าการดำเนินการของ กกต. ยึดประโยชน์ของชาติเป็นหลัก
อ่านข่าว :จับตา! ตำแหน่ง ส.ส.พรรคก้าวไกลคดีทำร้ายร่างกายผู้หญิง
ชวนถ่ายรูป "STOP VIOLENCE AGAINST WOMEN"
เฟซบุ๊ก ของนายชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา
ขณะที่เฟซบุ๊ก ของนายชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพและข้อความบนเฟซบุ๊กว่า คนรุ่นใหม่ #รวมไทยสร้างชาติ ขอชวนร่วมถ่ายรูปท่ามือห้าม พร้อมข้อความ "STOP VIOLENCE AGAINST WOMEN" แล้วโพสต์บน social media ติดแฮชแท็ก #สสทำร้ายร่างกายผู้หญิงเพื่อรณรงค์ให้ความรุนแรงต่อสตรีหมดไปจากสังคมไทย
เฟซบุ๊กส่วนตัว เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ (ขิง)
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ (ขิง) ระบุว่า ได้ข่าวการทำร้ายร่างกายสุภาพสตรีแล้วรู้สึกขยะแขยงครับ แต่เหตุการณ์ลักษณะนี้ก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายครั้งผู้ที่กระทำมีตำแหน่งสำคัญทางสังคม พอสักทีครับ… “หยุดใช้ความรุนแรงต่อสุภาพสตรี” #สสทำร้ายร่างกายผู้หญิง #เลขาขิง #รทสช
แม้ว่า ส.ส. ต้นเรื่องได้ออกมาชี้แจงผ่านโซเชียลแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังต้องจับตาว่าจะลงเอยอย่างไร และเป็นเรื่องที่ต้องลุ้นกันต่อ พอๆ กับตำแหน่งประธานสภาฯ นั่นเอง