พร้อมประกาศขอแรงหนุนจาก ส.ว.ให้เลือกตัวเองเป็นนายกฯ คนที่ 30 พร้อมเสียงปรบมือและเสียงเฮ ของด้อมส้มมหาชัย-แม่กลอง
ตกดึกสื่อหลายสำนัก โพสต์ข้อความ Breaking News “ก้าวไกล-เพื่อไทย” ยกเลิกถกข้อสรุป “ประธานสภาฯ” เลื่อนออกไปไม่มีกำหนด
การยกเลิกประชุมครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากพรรคเพื่อไทย แถลงไม่ยอมถอย กรณีเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่พรรคก้าวไกล เปิดตัว “หมออ๋อง” นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เป็นแคนดิเดตในนามพรรคก้าวไกล ซึ่งคาดว่าแกนนำทั้งสองฝ่ายเจรจากันไม่ลงตัว
เซียนการเมืองระบุว่า “นี่ไม่ใช่ฝุ่นตลบ แต่เป็นการเปิดหน้ารบแล้ว”
จึงไม่เพียงแต่เป็นเค้าลางความขัดแย้งของ 2 พรรคใหญ่ แต่หมายถึง ข้อตกลงของทั้ง 8 พรรค อาจเป็นหมันหรือ “วงแตก” แล้ว
วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา (2566)
วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา (2566)
“วราวุธ” นำ 10 ส.ส.รายงานตัว
เช้านี้ (28 มิ.ย.2566) ท่ามกลางบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นัด 10 ส.ส.ชาติไทยพัฒนา ผูกเนคไทสีชมพู ปักโลโก้พรรค เข้ารายงานตัว
พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันอธิบดี อาจจะหัวเก่าแต่เอาฤกษ์เอาชัยเล็กน้อย ส่วนทิศทางการโหวตเลือกประธานสภาฯ ของพรรคชาติไทยพัฒนา ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะเป็นใคร อย่างไร ดังนั้น เช้าวันที่ 4 ก.ค.จะเรียกประชุมพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อหารือแนวทางของพรรคหลังจากทราบชื่อแคนดิเดตประธานสภาฯ แต่ละพรรคแล้ว
ส่วนการประชุมพรรคจะร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมหรือไม่นั้น นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องรอดูความชัดเจนอีกครั้ง เพราะในวันนี้ยังไม่เห็นความชัดเจน ก็ยังไม่มีจะประชุมหรือหารือกันไปก็ยังไม่มีแนวทาง
โหวตประธานสภาฯ มองตาก็รู้ใจ
สำหรับกรณีพรรคก้าวไกลเปิดตัวนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ นั้น นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่มีความเห็น และมองว่า พรรคก้าวไกลได้พิจารณาบุคคลที่เหมาะสมแล้ว ก็เป็นสิทธิของพรรค ที่จะนำเสนอแคนดิเดตประธานสภาฯ ในส่วนของพรรคก้าวไกล
ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาจะใช้ดุลพินิจอย่างไรในการโหวตเลือกประธานสภาฯ นายวราวุธ กล่าวว่า รอให้ถึงเวลานั้นก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า จะมีการท้าชิงกันหรือไม่ ตอนนี้รู้เพียงแค่แคนดิเดตของพรรคก้าวไกล ต้องรอให้มีความชัดเจนก่อนดีกว่า
สำหรับการโหวตจะต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่นั้น นายวราวุธ ระบุว่า จากที่ทำงานด้วยกันมา ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มาก จากความใกล้ชิด มองตาก็รู้ใจ
ส่วนจะต้องเป็นมติพรรคหรือไม่นั้น นายวราวุธบอกว่า เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.แต่คงจะมีการพูดคุยหารือข้อดีข้อด้อย หลังจากที่มีความชัดเจนของแต่ละพรรคมาแล้ว
ปัดไม่ตอบ “สลับขั้วตั้งรัฐบาล” บอก ชทพ.มีแค่ 10 เสียง
สำหรับประเด็นความขัดแย้งประธานสภาฯ จะทำให้เกิดการสลับขั้วตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ พรรคชาติไทยพัฒนามีแค่ 10 คน นั่งรถตู้คันเดียวก็หมดแล้ว ดังนั้นคงต้องรอความชัดเจนจากพรรคใหญ่ ว่าจะมีแนวทางกันอย่างไร คงคอยดูสถานการณ์ไปก่อนพรรคชาติไทยพัฒนา คงรอดูสถานการณ์ไปก่อน
เหตุการณ์ที่ยังตกลงกันไม่ได้ เป็นแนวทางใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นจะส่งผล ต่อการประชุมสภาฯในอนาคตหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนมองว่าเป็นความท้าทายของประธานฯ ชั่วคราว
อย่าง พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ เป็นนักการเมืองที่คร่ำหวอดมานาน มีประสบการณ์มีวุฒิภาวะมีความรู้ และได้รับการยอมรับจากหลายฝ่าย ตนเชื่อว่าเป็นสิ่งท้าทาย แต่มั่นใจว่า จะควบคุมการประชุมแรกให้ผ่านไปได้ด้วยดี
วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา
วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา
มั่นใจไม่มีอะไรทำให้การเมืองสะดุด
ส่วนขณะนี้ประเด็นประธานสภาฯ ดูเหมือนจะยืดเยื้อมากเกินไปหรือไม่ เพราะยังตกลงกันไม่ได้ นายวราวุธ กล่าวว่า จริง ๆ จะว่ายืดเยื้อเกินไปหรือไม่ก็ไม่เชิง เพราะถ้าดูตามทรานเฟรมแล้ว สภาชุดนี้ ใช้เวลาเพียงแค่ 30 กว่าวันเท่านั้น ดังนั้นจะว่ายืดเยอะไปก็ไม่ถูก เพราะก่อนหน้านั้นยืดเยอะกว่านี้อีก ดังนั้นตนคิดว่าวันนี้ก็ไม่ได้ช้าเกินไป
คงไม่มีอะไรทำให้การเมืองไทยสะดุด เมื่อมีการเลือกประธานสภาและเลือกนายกฯ และฟอร์มรัฐบาลขึ้นมา ทุกอย่างก็จะเดินไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ที่ใช้ตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร กำหนดการเดินไปข้างหน้า รัฐบาลเป็นการบริหารประเทศ ก็คงไม่มีอะไรสะดุด
สำหรับ ประเด็นการพลิกขั้ว จะทำให้เกิดการชุมนุมขึ้นหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนตอบแทนหลายคนไม่ได้ แต่ทุกอย่างหลังการเลือกตั้ง มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น
การพูดคุยกันก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรคที่จะทำงาน และคงไม่น่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น เพราะแต่ละพรรคก็คงจะเข้าใจถึงสถานการณ์การเมืองของประเทศไทย ก็คงประคับประคองสถานการณ์การเมืองไทยให้ผ่านไปได้อย่างราบรื่น
เสียงข้างมาก-ข้างน้อย แล้วแต่ใครจะมองด้านไหน
เมื่อถามว่า 14 ล้านเสียง เป็นเสียงข้างมากหรือไม่ เพราะ ส.ว. มองว่าเป็นเสียงข้างน้อย นายวราวุธ กล่าวว่า 14 ล้านเสียง เป็นเสียงที่มาก และถือว่าเป็นเสียงที่เยอะที่สุด แต่ประเทศไทยมีประชากรอยู่ 66 ล้านคน มีผู้ลงคะแนน 50 กว่าล้าน คงต้องแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน
ถ้าคิดว่า 14 ล้าน จาก 50 ล้าน อาจจะไม่ใช่เสียงข้างมาก แต่ 14 ล้านเมื่อเทียบกับพรรคอื่น เป็นพรรคที่ได้คะแนนเยอะที่สุด ก็คิดได้ จริง ๆ ต้องบอกว่าเหรียญทุกเหรียญมีสองด้าน ดังนั้น แล้วแต่ว่าเราจะมองจากด้านใด
ก้าวไกลอาจจะมองว่าตัวเองได้คะแนนมากที่สุด ก็ถูกต้อง แต่ทาง ส.ว. ก็มองเหรียญอีกด้านหนึ่ง แต่ก็เหรียญเดียวกัน แต่แนวทางการดำเนินงานจะเป็นอย่างไร เหรียญทุกเหรียญมีสองด้านเสมอ
วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา
วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา
โหวตนายกฯ ต้องหารือกันในพรรคก่อน
เมื่อถามถึงแนวทางของพรรคชาติไทยพัฒนา ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องหารือกันภายในพรรคก่อน และจะต้องมีความชัดเจนในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีว่าจะเป็นใคร
กรณีที่ ส.ว.จะมาตรวจสอบคุณสมบัติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เหมาะสมหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า แต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างกันไป อย่างเวลาออกกฎหมาย ก็ต้องผ่าน ส.ว.อีกครั้งหนึ่ง อาจจะเป็นมุมมองของการตรวจสอบ เช่นเดียวกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
หาก ส.ว.มีความสงสัยคลางแคลงใจในประเด็นใดและคนใด ก็เป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ว.แต่ละคน ในการนำเสนอข้อสังเกตต่างๆ และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ มองว่าเป็นสิทธิ์ของ ส.ว.
เมื่อถามต่อว่า เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการตั้งข้อสงสัยถึงศักยภาพของแคนดิเดตนายกฯ ครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งที่มีการตั้งข้อสงสัย
เป็นเรื่องปกติที่ว่าคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องได้รับการส่องกล้องจุลทรรศน์ เพราะทุกคนให้ความสนใจ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่สมัยนายบรรหาร ศิลปอาชา หรือนายชวน หลีกภัย ก็จะได้รับการสองกล้องจุลทรรศน์จากสังคม และสาธารณชนอยู่แล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ท้าชิงบัลลังก์ “ประธานรัฐสภา” สุชาติ ตันเจริญ
"ปริญญา" ชี้ ก้าวไกลไม่มั่นใจได้ "นายกฯ" ปมไม่ปล่อย "ประธานสภาฯ" ให้เพื่อไทย