วันนี้ (27 มิ.ย.2566) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.เปิดเผยผลปฏิบัติการล่าขุมทรัพย์ทุนจีนคริปโต EP.2 ปิดล้อมตรวจค้น 10 จุด มีทั้งกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และชลบุรี
จุดสำคัญ คือ ห้องชุดมูลค่า 128 ล้านบาท ในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านสาทร กทม. การสืบสวนพบว่า ห้องดังกล่าว เป็นของ นายอาบิน เย่ สามี ของ นางเคอ ยี เย่ หรือ คี ยี เย่ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีน ที่ถูกออกหมายจับในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน ที่ถูกจับกุมแล้วก่อนหน้านี้
ผบช.สอท. เปิดเผยว่า สืบเนื่องจาก สอท. ได้รับแจ้งความออนไลน์เกี่ยวกับคดีหลอกลงทุน แบบ "ไฮบริดสแกม" พฤติการณ์ผู้ก่อเหตุจะทำความรู้จักผู้เสียหายผ่านทางโซเชียลมีเดีย ตีสนิทก่อนจะชักชวนลงทุน ซื้อ ขาย เงินสกุลดิจิทัล โดยการสร้างแพลตฟอร์มปลอมขึ้นมา ซึ่งมีผู้เสียหายทั้งในไทยและต่างประเทศ มากกว่า 20,000 คดี มูลค่าความเสียหายมากกว่า 10,000 ล้านบาท
ดังนั้นคดีนี้จึงเป็นคดีอาชญากรรมข้ามชาติ ฉ้อโกงประชาชน และการฟอกเงิน โดยทางการสืบสวนได้ประสานหน่วยงานกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ และหน่วยงานต่างประเทศ จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องคนสำคัญคือ นายเซาเซียน ซู และ นางคียิ ยี เพื่อนสาวคนสนิท ได้ที่บ้านพักหรูย่านศรีนครินทร์ พร้อมอายัดทรัพย์สินหลายรายการ ด้าน พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ระบุผลการตรวจยึดทรัพย์สินในวันนี้เพิ่มเติมว่าน่าจะมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
สำหรับตัว นายซู เป็นตัวการใหญ่และเป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่ถูกตำรวจสากลออกหมายแดงในคดีฉ้อโกง มูลค่าความเสียหายมากกว่า 180 ล้านหยวน หรือมากกว่า 900 ล้านบาท และเป็นบุคคลที่ทางการจีนต้องการตัวเป็นอย่างมาก เพราะหลอกลวงมีผู้เสียหายอยู่ทั่วโลก โดยในไทยมีผู้เสียหายแจ้งความแล้ว 3 คน ในสหรัฐฯ แจ้งความแล้ว 1 คน และอังกฤษอีก 1 คน
ขณะที่การสอบปากคำนายซู ให้การปฏิเสธแต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจน รวมถึงโทรศัพท์มือถือของนายซู ที่นายซูพยายามลบข้อมูลแล้วแอบโยนทิ้งขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม จึงน่าเชื่อว่ามีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเครือข่ายและเส้นทางการเงินทั้งหมด ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบกู้ข้อมูล จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯ ส่วนบัญชีเงินดิจิทัลของผู้ต้องหาอายัดกระเป๋าเงินดิจิทัลได้หลายบัญชีแล้ว