นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากหัวหน้าด่านกักกันสัตว์ตาก ซึ่งร่วมกับด่านศุลกากรห้วยยะอุ สกัดรถบรรทุกพ่วง 2 คัน ที่กำลังเคลื่อนย้ายโค คาดว่า ลักลอบนำเข้าจากเมียนมา โดยเป็นการประสานงานจากด่านศุลกากรห้วยยะอุว่า จะมีการขนโคลักลอบนำเข้าแบบดาวกระจาย
รถบรรทุกคันที่ 1 ที่เรียกตรวจสอบ เป็นรถบรรทุกพ่วง 12 ล้อ บรรทุกโค 23 ตัว และลูกพ่วง 12 ล้อ บรรทุกโค 20 ตัว รวม 43 ตัว เดินทางจาก ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อเคลื่อนย้ายไปยัง จ.สุโขทัย
ส่วนรถบรรทุกคันที่ 2 เป็นรถบรรทุกพ่วง 12 ล้อ บรรทุกโค 33 ตัว และลูกพ่วง 8 ล้อ บรรทุกโค 33 ตัว รวม 66 ตัว เดินทางจาก ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อเคลื่อนย้ายไปยัง จ.ยโสธร
เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ตาก ขอตรวจสอบใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์ (ร.3) จากคนขับรถทั้ง 2 คัน พบว่า เป็นใบอนุญาตที่ผ่านการใช้งานและมีการปลอมแปลงรายละเอียดของเอกสารเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 22 บทกำหนดโทษตามมาตรา 65 แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ฐานเคลื่อนย้ายสัตว์เข้า ออก ผ่าน หรือภายในเขตเฝ้าระวังโรคระบาด โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบประจำเขตนั้น
ตามประกาศจังหวัดตาก ได้กำหนดให้ท้องที่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอในจังหวัดตาก เป็นเขตเฝ้าระวังโรคระบาดชนิดโรคปากและเท้าเปื่อยในสัตว์เท้ากีบจำพวกโค กระบือ สุกร แพะและแกะ โดยการเคลื่อนย้ายสัตว์แต่ละครั้งต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากสัตวแพทย์ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบประจำเขตนั้นทุกครั้ง ที่มีการเคลื่อนย้ายสัตว์ ซึ่งคนขับรถไม่สามารถนำใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ นอกจากนี้ยังมีความผิดฐานใช้เอกสารราชการปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265
เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางประกอบด้วยรถบรรทุกและโคมีชีวิตรวม 109 ตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.พะวอ จ.ตาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสัตวแพทย์สมชวน กล่าวว่า ได้เสริมกำลังเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนและตั้งจุดสกัดเพื่อป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสัตว์และซากสัตว์อย่างเข้มงวด หากพบจะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบาดสัตว์ ปกป้องการประกอบอาชีพของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ และเพื่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภค
ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแส หรือข้อมูลเพิ่มเติม แจ้งได้ที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225-6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง