วันนี้ (7 มิ.ย.2566) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ถึงความคืบหน้าในการเตรียมแผนการเคลื่อนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์ ช้างไทยในศรีลังกา โดยทีมสัตวแพทย์แพทย์ และกองไซเตส กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมทั้งจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ชุดแรกได้เดินทางถึงศรีลังกาแล้ว ส่วนควาญช้างจะเดินทางไปสมทบในวันที่ 10 มิ.ย.นี้
นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วนกรงเคลื่อนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์ ที่มีการต่อขึ้นมาใหม่เพื่อรองรับช้างเชือกนี้ ที่มีน้ำหนักถึง 3.5 ตันมีความคืบหน้าไปแล้ว 50% คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะเริ่มขนย้ายไปที่สวนสัตว์ เพื่อเตรียมให้ควาญจาก อ.อ.ป. ฝึกให้ช้างฝึกเดินเข้า-ออกกรง เพื่อสร้างความคุ้นชิน รวมทั้งเตรียมเจ้าหน้าที่ในการทดลองการขนย้ายด้วยเครนทั้งแบบกรงเปล่า และที่มีพลายศักดิ์สุรินทร์อยู่ด้านใน ซึ่งกระบวนการนี้ต้องให้ปลอดภัยมากที่สุด
เปิดภาพกรงที่ต่อขึ้นเพื่อเคลื่อนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทยคืบหน้า 50%
เปิดภาพกรงที่ต่อขึ้นเพื่อเคลื่อนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทยคืบหน้า 50%
ส่วนการเดินทางกลับยัง เป็นตามแผนเดิม 1 ก.ค.นี้ ช่วงบ่ายโมงจะเดินทางจากศรีลังกาด้วยเครื่องบิน Ilyushin IL-76 มาถึงสนามบินเชียงใหม่ช่วงค่ำๆ ใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง แต่เตรียมแผนว่าถ้าพลายศักดิ์สุรินทร์ มีอาการเหนื่อยหรือเครียดเดินไป ก็อาจจะแวะพักที่สวนสัตว์เชียงใหม่ก่อน
ถ้าพลายศักดิ์สุรินทร์เดินทางแล้วเครียดหรือเหนื่อยไป ก็อาจะแวะพักที่สวนสัตว์เชียงใหม่ก่อน แต่ถ้าไปไหวก็จะเคลื่อนไปที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างจ.ลำปาง ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง เพราะต้องขับช้าๆและเส้นทางเป็นภูเขา
นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกอย่างถือว่ามีการเตรียมพร้อมทั้งการเคลื่อนย้ายช้างในศรีลังกา และทำงานคู่ขนานกับในไทยที่ต้องเตรียมรองรับช้างกลับบ้าน เพื่อให้ช้างปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งวันที่ 29 มิ.ย.นี้ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา พี่สาวที่ติดตามการนำพลายศักดิ์สุรินทร์กลับไทย จะไปรับช้างด้วยตัวเอง และไปเยี่ยมช้างพลายศรีณรงค์ อีก 1 ใน 3 เชือกที่ไปอยู่ศรีลังกา พร้อมกับพลายศักดิ์สุรินทร์ด้วย
เจ้าหน้าที่สถานทูตไทย-ไซเตส ตรวจความพร้อมกรงที่ต่อเพื่อขนย้ายช้าง
เจ้าหน้าที่สถานทูตไทย-ไซเตส ตรวจความพร้อมกรงที่ต่อเพื่อขนย้ายช้าง
ด้านนายอรรรถพล เจริญชันษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ขณะนี้ทุกอย่างถือว่ามีความพร้อมมากในการเคลื่อนย้ายช้าง แต่ก็ต้องขึ้นกับความพร้อมของตัวช้างด้วย โดยในช่วง 2-3 สัปดาห์เมื่อควาญไปถึงศรีลังกาแล้วจะต้องทำความรู้จักกัน และฝึกให้ช้างคุ้นชิน ถ้าช้างฟังคำสั่งไวและปรับตัวได้ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
สำหรับกรงของพลายศักดิ์สุรินทร์ ได้ต่อขึ้นมาใหม่เพื่อให้เหมาะกับขนาดและตัวของพลายศักดิ์สุรินทร์ ที่สูง 2.9 เมตร และความกว้างจากงาจรดหาง 4.55 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ต้องต่อขนาด 2.1 × 6.55×3.075 เมตร และมีความหนาของเหล็ก 21 ซม.ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของสัตวแพทย์
เอกอัครราชทูต-ไซเตส ตรวจกรงคาดเสร็จ 10 มิ.ย.นี้
นายพจน์ หาญพล เอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ นำคณะผู้แทนจากกรมอุทยานแห่งชาติฯ นำโดยนายประเสริฐ สอนสถาพรกุล ผอ.กองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา นายสดุดี พันธุ์ภักดี ผอ.ส่วนอนุญาตการค้าสัตว์ป่าระหว่างประเทศ พร้อมด้วยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การสวนสัตว์อ.อ.ป.เข้าเยี่ยมชมติดตามความคืบหน้า พร้อมให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสร้างกรงเพื่อขนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์ให้มีความเหมาะสมปลอดภัย ให้สอดรับกับพฤติกรรมของช้าง รวมไปถึงระบบบำบัดสิ่งปฏิกูล
สำหรับการสร้างกรงมีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 50-70% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ควาญช้างจากประเทศไทยเดินทางมาถึง
ทั้งนี้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคลัมโบ ได้รับสนับสนุนงบกลางจากรัฐบาลไทยเพื่อนำมาจัดทำกรงในการเคลื่อนย้ายพลายศักดิ์สุรินทร์กลับประเทศไทย ซึ่งขั้นตอนจากนี้คือหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับตั้งกรง เพื่อฝึกช้างให้คุ้นชินกับการเข้า-ออกกรง และสะดวกต่อการใช้เครนในการขนย้ายกรงด้วย
โดยในช่วงบ่ายคณะได้เข้าพบกับ Ms. Chandima Wickramasinghe และ MR.G.L Vernon Perera ผู้ช่วยเลขานุการ ประจำสำนักงานเลขาธิการประธานาธิบดีศรีลังกา ณ สำนักงานประธานาธิบดีประเทศศรีลังกา และรองอธิบดีกรมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นายพจน์ กล่าวขอบคุณที่ประเทศศรีลังกาช่วยสนับสนุนในการส่งพลายศักดิ์สุรินทร์กลับประเทศไทย และผู้แทนประธานาธิบดีศรีลังกาได้กล่าวถึงกรณี นายกรัฐมนตรีประเทศไทยขอบคุณรัฐบาลศรีลังกาที่อนุมัติการนำช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ซึ่งเป็นช้างที่รัฐบาลไทยมอบให้รัฐบาลศรีลังกากลับประเทศไทยด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ควาญช้างอ.อ.ป.เลื่อนเดินทางฝึก "พลายศักดิ์สุรินทร์" ยันกลับไทย 1 ก.ค.นี้
เปิดชื่อ 2 ควาญช้างรับ "พลายศักดิ์สุรินทร์" ทำโรงยืนใหม่รักษา
