วันนี้ (15 พ.ค.2566) นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมายังศาลอาญา ตามนัดตรวจพยานหลักฐาน และสอบคำให้การคดีที่นายชูวิทย์ ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายกับ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เป็นเงิน 100 ล้านบาท หลังจากได้นำคลิปวิดีโอที่อ้างว่า มีการมั่วสุมเสพยาเสพติดภายในโรงแรมเดวิส ย่านสุขุมวิท ซึ่งเป็นโรงแรมของนายชูวิทย์ มาเผยแพร่และเปิดให้บริการเกินเวลา โดยที่นายชูวิทย์ไม่ได้เดินทางมาด้วยตัวเอง
นายอนันต์ชัย เปิดเผยว่า คดีนี้นายชูวิทย์ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ดำเนินคดีกับนายสันธนะในเรื่องดังกล่าว ซึ่งวันนี้ศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐาน และก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มาแล้ว ว่าที่ผ่านมาเคยได้รับการร้องเรียนว่ามีการมั่วสุมเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานตอบกลับมาแล้วว่าไม่เคยได้รับร้องเรียน และก็จะนำมายื่นเป็นหลักฐานต่อศาลในวันนี้
สำหรับข้อหาที่ได้แจ้งความให้ดำเนินคดี คือ สร้างพยานหลักฐานเท็จ แจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท ซึ่งนายอนันต์ชัย ระบุว่า นายสันธนะยังไม่ได้ติดต่อขอเจรจาเรื่องค่าเสียหาย แต่ยืนยันจะยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ตามเดิม
ขณะเดียวกันที่นายสันธนะ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกล่าวหาว่า นายอนันต์ชัยเป็น "ทนายโจร" นายอนันต์ชัย ได้ฟ้องดำเนินคดีกับนายสันธนะ ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาแล้ว พร้อมเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินคดี
ขณะที่นายสันธนะ ได้เตรียมหลักฐานที่ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบโทรศัพท์มือถือส่วนตัว 3 เครื่อง เพื่อที่จะระบุตำแหน่งพิกัดวันที่เกิดเหตุว่าอยู่ในสถานที่ใด ซึ่งได้ไปตรวจสอบมาเองแล้ว ปรากฏว่าอยู่ที่โรงแรมเดวิส และไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อ แต่พนักงานสอบสวนไม่ยอมส่งตรวจ จึงร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติดำเนินการทางวินัยกับตำรวจสน.ทองหล่อ 4 นาย ที่ทำสำนวนและส่งฟ้องจนถูกฟ้องคดี
นายสันธนะ ยืนยันว่าหลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอและภาพถ่าย เป็นหลักฐานจริงไม่ได้สร้างพยานหลักฐานขึ้นมา ส่วนในโรงแรมเดวิสทราบว่ากล้องวงจรปิดเสีย ไม่มีหลักฐานใดใด และพนักงานสอบสวนก็ทำเพียงการสอบปากคำนายชูวิทย์ ไม่ส่งหลักฐานที่ตัวเองมีไปตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาเคยเป็นอดีตตำรวจและทราบดีว่าจะไม่นำหลักฐานเท็จเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในชั้นศาลอย่างแน่นอน
ส่วนการฟ้องเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท ของนายชูวิทย์ มองว่ามากเกินไปเพราะเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ทำให้ธุรกิจเสียหายเป็นพันล้านบาท การเรียกค่าเสียหายเป็นการเขียนตัวเลขไปเท่านั้น ซึ่งนายชูวิทย์ ก็ต้องนำสืบให้ได้ว่าจำนวนเงินดังกล่าว สร้างความเสียหายให้กับตัวเองในด้านใดบ้าง
พร้อมกันนี้ได้ท้าทายนายชูวิทย์ หากแพ้คดีนี้ให้นำเงิน 100 ล้านบาทมาให้ด้วย หากไม่นำมาให้จะไปทวงที่โรงแรมเดวิส รวมทั้งนายอนันต์ชัย ที่ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท หากแพ้คดีก็ขอให้นำเงินมาให้ โดยที่จะไม่ฟ้องร้องให้เป็นคดี และก็เตรียมไปยื่นให้ตรวจสอบมรรยาททนาย ของนายอนันต์ชัย กรณีที่ให้สัมภาษณ์ในลักษณะข่มขู่ ที่สภาทนายความในเร็ว ๆ นี้