"ปลาตายน้ำตื้น" สุภาษิตนี้ อาจยังใช้ไม่ได้กับ "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล นักการเมืองดาวฤกษ์ขวัญใจวัยโจ๋ และแคนดิเดตนายกฯ แม้เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา จะถูกนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ตรวจสอบปมการพบชื่อ "นายพิธา" ถือหุ้น บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 42,000 หุ้น
อ่านข่าว : เปิด 2 แนวทางชี้ชะตา "พิธา" ถือหุ้นไอทีวี
ยังไม่ชัดเจนว่า การตรวจสอบของนายเรืองไกร จะนำไปสู่การ "สอย" นายพิธา ให้หลุดจากตำแหน่ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเบอร์ 1 หรือไม่ แต่การขว้าง "เผือกร้อน" เข้าใส่พรรคก้าวไกลในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง มองอื่นใดไปไม่ได้ นอกจากการสกัดดาวรุ่ง
โดยคำร้องที่นายเรืองไกร ขอให้ กกต.ตรวจสอบระบุว่า หุ้นไอทีวีที่ "นายพิธา" มีรายชื่อครอบครองอยู่นั้น มีลักษณะต้องห้ามในการลงสมัครรับเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) หรือไม่ ซึ่งตามขั้นตอนทางกฎหมาย หลังจากนี้ กกต.จะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาด
"ได้ข้อมูลมาจากบุคคล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของ บมจ.ไอทีวี พบหลักฐานตามเอกสาร บมจ.6 ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าส่งมาว่า วันที่ 27 เม.ย.2565 นายพิธายังเป็นผู้มีชื่อถือหุ้นจำนวนดังกล่าวอยู่ และ บมจ.ไอทีวี เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจสื่อ" นายเรืองไกร อ้างข้อมูล
และย้ำว่า มีรายงานการประชุมล่าสุดที่มีผู้ถือหุ้นถามผู้บริหารว่า บมจ.ไอทีวี เป็นสื่อหรือไม่ ซึ่งผู้บริหารก็ได้ตอบว่าเป็นบริษัทสื่อ จึงจำเป็นต้องร้องให้ กกต.ตรวจสอบ
ขณะที่ "นายพิธา" ชี้แจงว่า ตนมีฐานะเป็นผู้จัดการมรดก และหุ้นเป็นของกองมรดกไม่ใช่หุ้นตนเอง ได้ปรึกษาและแจ้งต่อ ป.ป.ช.ไปนานแล้ว มีทีมกฎหมายพร้อมเตรียมการชี้แจงหาก กกต.ส่งคำร้องมา
แม้ปรากฏการณ์ "ปลาตายน้ำตื้น" ยังไม่เกิดขึ้นกับ "นายพิธา" แต่หากย้อนดูคดีที่เคยเกิดขึ้นกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2562 หลังนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ตรวจสอบการถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของ "นายธนาธร" ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ที่ห้ามผู้เป็น ส.ส.เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด หรือไม่
อ่านข่าว : รู้จัก (ว่าที่) นายกฯ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์"
หลังจากรับเรื่องวันที่ 16 พ.ค.2562 กกต.ได้ส่งร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยสมาชิกภาพของนายธนาธร ต่อมาเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นายธนาธร สิ้นสภาพ ส.ส.จากเหตุถือหุ้นใน บ.วีลัค มีเดียจำกัด เนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.พ.2566 นายธนาธรยังเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่พรรคอนาคตใหม่ส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต่อ กกต.
โดยบริษัท วี-ลัค มีเดียฯ ที่นายธนาธรถือหุ้น เป็นบริษัทที่ระบุวัตถุประสงค์ในการยื่นจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ว่า ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์และสื่อมวลชน
อ่านข่าว : จับกระแสการเมือง: วันที่ 23 ม.ค.2567 “มรณสักขี” คดีซุกหุ้นไอทีวี ชี้อนาคต “พิธา” ก้าวไกล “รุ่ง-ร่วง”
และหากพิจารณาจากงบการเงินของบริษัท พบว่ามีรายได้จากการขายนิตยสาร ให้บริการโฆษณาถือเป็นการประกอบธุรกิจสื่อสารมวลชน และยังคงประกอบกิจการอยู่ ไม่มีการจดทะเบียนยกเลิกบริษัทหรือเสร็จการชำระบัญชี
ประเด็นที่ขัดต่อข้อกฎหมาย จึงทำให้อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นสภาพ ส.ส.โดยมีผลนับตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.2562
หมดยุคจากพรรค "อนาคตใหม่" มาเป็น "ก้าวไกล" ภายใต้การนำของนายพิธา ก็เคยเห็นชะตากรรมที่เคยเกิดขึ้นกับนายธนาธร ด้วยเหตุการถือครองหุ้นสื่อตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ไปแล้ว จึงมีคำถามว่าเหตุใด "นายพิธา" จึงยังถือครองหุ้นไอทีวี มานานถึง 17 ปี
และเป็นไปได้หรือไม่ว่า ปรากฏการณ์ "ปลาตายน้ำตื้น" จาก "ธนาธร" ถึง "พิธา" อาจเกิดย้อนรอยซ้ำอีกรอบ ขณะที่ "ก้าวไกล" อยู่ในช่วงขาขึ้นและครองใจวัยโจ๋ในเขตเมืองช่วงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง
อ่านข่าวอื่น
ฉายาสภา 66 "สภาลวงละคร" - "พิธา" คว้า "ดาวดับ 66"