วันนี้ (11 พ.ค.2566) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่เสนอนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เป็นการจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้กับพรรคและผู้สมัครพรรคเพื่อไทย อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องหรือไม่
ทั้งนี้เกิดเหตุเหตุชุลมุนขึ้นที่ กกต.หลังจากนายศรีสุวรรณ ให้ข้อมูลแล้วเสร็จและให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ปรากฎมีชายคนหนึ่งเข้ามาตบหน้านายศรีสุวรรณ สร้างความตกใจให้กับสื่อมวลชน หลังจากนั้นนายศรีสุวรรณ ได้เปิดแมสก์ให้ดูว่ามีแผลริมฝีปากแตก
ขณะที่ผู้ก่อเหตุยังระบุต่อสื่อมวลชน ถึงเหตุจูงใจในการทำร้ายร่างกายนายศรีสุวรรณ โดยอ้างว่า นายศรีสุวรรณ ร้องทุกเรื่องและไม่รู้ว่ารับจ้างใครมาหรือไม่ และมาทำธุระและมาเจอพอดี
ขณะที่นายศรีสุวรรณ ระบุว่า ไม่เคยรู้จักชายคนดังกล่าวมาก่อน และจะใช้สิทธิทางกฎหมายไป แจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง
สำหรับนายศรีสุวรรณ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2565 เคยถูกทำร้ายร่างกาย กลางวงสัมภาษณ์สื่อมวลชน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) หลังจากร้องเรียนกรณีการทอล์กโชว์เดี่ยวไมโครโฟน-13 มีการใช้ถ้อยคำ บางคำพูดอันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย อาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐ และหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
อ่านข่าวเพิ่ม ด่วน! บุกทำร้าย “ศรีสุวรรณ” ขณะร้องเรียนตรวจสอบ “โน้ส อุดม” เดี่ยว 13
ชี้ผิดเงื่อนไข ม.57-จี้กกต.วินิจฉัย
นายศรีสุวรรณ ให้ถ้อยคำยืนยันต่อ กกต.ว่าการหาเสียงโดยการแจกเงินดังกล่าวอาจเป็นการฝ่าฝืน ม.73 (1) และ (5) ของพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 ประกอบ พรบ.เงินตรา 2501 พรบ.ธนาคารแห่งประเทศไทย 2485 พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 พรก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล 2561 และ พรก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 19) 2561 ได้
อ่านข่าวเพิ่ม เลือกตั้ง2566 : “โพลเทียม” ว่อนภาคใต้ ระดม "กระสุน" สู้ยิบตาโค้งสุดท้าย
แม้พรรคเพื่อไทย จะได้ชี้แจงนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองที่ต้องใช้เงิน ตามมาตรา 57 พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ต่อ กกต. และได้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะเป็นการทั่วไปแล้วก็ตาม
แต่เนื่องจากตัวเลข 5,600,000 ล้านบาท ที่ต้องนำมาใช้ในนโยบายนี้ ยังสงสัยกันอย่างมากว่าวงเงินดังกล่าวต้องนำมาใช้ในครั้งเดียวก่อนเริ่มโครงการ จะอ้างนำภาษีที่ได้จากผลคูณต่อเศรษฐกิจจากนโยบาย 1 แสนล้านบาทมารวมก่อนไม่ได้ ส่วนการตัดงบประมาณที่ซ้ำซ้อน ก็ไม่แจ้งให้ชัดว่าจะตัดงบด้านใด ตัดงบบัตรคนจน ตัดงบผู้สูงอายุ ใช่หรือไม่ที่สำคัญ
หากพรรคเพื่อไทยจัดสรรเงินที่จะต้องนำมาใช้จ่ายตามกรอบวงเงินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล จะไปกระทบกับวงเงินงบประมาณจากนโยบายการใช้จ่ายเงินอื่นๆ ของพรรคเพื่อไทยที่มีรวม 70 นโยบาย 15 ด้านตามเอกสารชี้แจง ซึ่งกำหนดกรอบวงเงินที่ใช้ดำเนินการตลอดระยะเวลา 4 ปีตามวาระรัฐบาล รวมเป็นเงินกว่า 3 ล้านล้านบาทด้วย
ความเป็นไปได้อาจมีน้อยมาก และหากมีความพยายามผลักดันนโยบายออกมาใช้ ก็อาจจะไปกระทบต่อวินัยการเงินการคลังของชาติ นอกจากสุ่มเสี่ยงที่จะผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นการหาเสียงที่ถูกครหาจากนักวิชาการและผู้ที่อยู่ในแวดวงการเงินการคลัง
อีกทั้งการชี้แจงนโยบายดังกล่าว อาจไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของ ม.57 พรป.พรรคการเมือง 2560 ที่กำหนดไว้หรือไม่ ซึ่ง กกต. ต้องพิจารณาและวินิจฉัยว่านโยบายหาเสียงดังกล่าว มีความเป็นไปได้ หรือมีการปกปิดข้อมูลที่ควรจะแจ้งหรือไม่ หากมีการปกปิด ก็อาจจะเข้าข่ายผิดพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 73(5) ได้
ซึ่งนโยบายในลักษณะ กกต.ต้องเร่งวินิจฉัย เพื่อวางบรรทัดฐานเกี่ยวกับการใช้นโยบายประชานิยมสุดขั้วมาใช้หาเสียง ซึ่งอาจก่อความเสียหายต่อการเงินการคลังของชาติได้ในอนาคต แต่หาก กกต.ไม่ดำเนินการใด ๆ สมาคมฯจำต้องนำความไปฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อสร้างบรรทัดฐานของการหาเสียง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลือกตั้ง 2566 : ปักหมุด 8 พรรคใหญ่ทิ้งทวนหาเสียงโค้งสุดท้าย 12 พ.ค.
เลือกตั้ง2566 : กกต. โต้ "ชูวิทย์" แจงเลือกตั้งล่วงหน้าหาดใหญ่ ไม่มียอดใช้สิทธิเกิน