เหตุการณ์ดังกล่าว น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย และเกิดการโต้เถียงกันไปมา จนตำรวจต้องล่าถอยออกมา ล่าสุดเตรียมดำเนินคดีกับผู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่
พ.ต.ท.สมบัติ พรุฑธา รองผู้กำกับสอบสวน สภ.เขาดิน จ.ราชบุรี นำตัว ส.ต.อ.จารุพัฒน์ ขำแก้ว ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษปราบปรามการทุจริตเลือกตั้ง ที่ได้รับบาดเจ็บ ไปชี้จุดเกิดเหตุที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 11 ต.เขาชะงุ้ม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หลัง ส.ต.อ.จารุพัฒน์ พร้อมตำรวจอีก 3 นาย เข้าไปตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง หลังได้รับแจ้งจากกำนันตำบลเขาชะงุ้มว่า อาจมีการกระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายการเลือกตั้ง แต่ถูกชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นปิดล้อม และถูกฉุดกระชากเข้าไปในบริเวณบ้าน ทำให้ได้รับบาดเจ็บ และอาวุธปืนหายไป
โดยระหว่างนั้น น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี เข้ามาแสดงตัว พร้อมทั้งต่อว่าตำรวจ และกล่าวหาว่าบุกรุก
ตำรวจพยายามเข้าไปตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะ น.ส.ปารีณา และชาวบ้านกลุ่มหนึ่งขวางไว้ ตำรวจจึงต้องกลับออกมาจากพื้นที่โดยตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ เข้าแจ้งความกับตำรวจภูธรเขาดิน เพื่อเอาผิดในข้อหาทำร้ายร่างกาย และยืนยันว่าทำตามหน้าที่หลังได้รับแจ้งเหตุ พร้อมแสดงตัว แต่คนที่อยู่ในบริเวณกลับวิ่งหนี จึงวิ่งไล่ตาม ขณะที่ น.ส.ปารีณาอ้างไปร่วมงานวันเกิด
ต่อมา พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี เรียกตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขาดิน ไปสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และยืนยันว่าตำรวจทำตามหน้าที่
ส่วนอาวุธปืนของ ส.ต.อ.จารุพัฒน์ ตำรวจได้รับคืนแล้ว โดย น.ส.ปารีณา ระบุว่า ตกอยู่ห่างจากจุดที่ถูกล็อกตัวประมาณ 15 ม.และเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจได้เข้าตรวจสอบบ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาพยานหลักฐาน และเรียกชาย 1 คน มาสอบสวน
สำหรับพื้นที่เขต 3 จังหวัดราชบุรี เป็นพื้นที่แข่งขันสูง เดิมเป็นฐานเสียงของ น.ส.ปารีณา แต่ครั้งนี้ถูกตัดสิทธิการเลือกตั้ง แต่ส่งพี่ชาย คือนายสีหเดช ไกรคุปต์ ลงสมัครแทน ในนามของพรรคภูมิใจไทย คู่แข่งคนสำคัญคือนายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ หลานชายนายชัยทิพย์ กมลพันธุ์ทิพย์ อดีต ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ แต่ที่ย้ายไปสังกัดพรรคพลังประชารัฐ