เสียงประชาชนถามสนั่นโซเชียล #กกตมีไว้ทําไม ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ข้ามวันล่าสุดวันนี้ (8 พ.ค.2566) จากแคมเปญ change.org กรณีปัญหาเจ้าหน้าที่เขียนเขตผิดกลายเป็นบัตรเสีย พบว่าเมื่อเวลา 10.00 น. คนลงชื่อถอดถอนทะลุ 1,054,236 คน
แม้จะปิดหีบการเลือกตั้งล่วงหน้าของผู้มีสิทธิ 2.3 ล้านคน ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงวันนี้ ชาวโซเชียลยังตั้งคำถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเลือกตั้งล่วงหน้า ทำให้แฮชแท็ก กกต.มีไว้ทำไม และกกต.ต้องติดคุก ยังเป็นคำค้นยอดนิยมอันดับ 1 และอันดับ 2 ข้ามคืน พร้อมทั้งการตั้งคำถามถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้ง 7 คน
ไทยพีบีเอสออนไลน์ รวบรวมปัญหาการเลือกตั้งล่วงหน้าที่ชาวโซเชียลฯ ช่วยกันจับตามองและแชร์ประสบการณ์ที่พบ โดยเฉพาะประเด็นเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งเขียนเขตเลือกตั้งและจ่าหน้าซองผิด เช่น ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่มีปัญหาถึง 148 ซอง คือการกรอก "รหัส" หน้าซองบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าผิด โดย กกต.ให้แยกหีบ
นอกจากนี้ยังมีที่ จ.อำนาจเจริญ และ จ.อุบลราชธานี พบว่ามีการนำรถไปรับผู้สูงอายุมาเลือกตั้งล่วงหน้า และมีการเก็บบัตรประชาชน บางพื้นที่ถ่ายรูปบัตรในขณะเข้าคูหาเลือกตั้ง
กาบัตรแทนผู้พิการทางสายตา
ส่วนอีกประเด็นที่ทำให้ กกต.ต้องออกหนังสือด่วนเพื่อแก้ปัญหาทันที กรณีเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งในพื้นที่วัดหว่านบุญคลอง 6 จ.ปทุมธานี โดยผู้พิการทางสายตา ระบุว่ามาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้กาบัตรเลือกตั้ง แต่เจ้าหน้าที่กาบัตรให้เอง และไม่ให้ผู้พิการทางสายตาตรวจสอบบัตรดังกล่าวมีอักษรเบรลล์หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กกต.ออกคำชี้แจงว่า มีการจัดทำ "คู่มืออักษรเบรลล์" รณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส.จำนวน 1,000 เล่ม แจกจ่ายไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดและกรุงเทพมหานคร จำนวน 77 จังหวัด ๆ ละ 3 เล่ม รวมจำนวน 231 เล่ม เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้พิการทางการมองเห็นได้ทราบถึงกระบวนการ และขั้นตอนการเลือกตั้ง วันที่ 14 พ.ค.นี้
ทั้งนี้ กกต.แถลงสรุปคำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วไปทั้งประเทศ 592 เรื่อง โดย กทม.มีคำร้องมากที่สุดเกือบ 100 เรื่อง ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนสรุปว่า มีมูลและเสนอเรื่องเข้าสู่การสืบสวน-ไต่สวนตามกฎหมาย
"ชูวิทย์" แฉกาเบอร์ผิด ชีวิตเปลี่ยน
ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊กพร้อมคลิป ระบุว่า พบเลือกตั้งล่วงหน้าหลายจังหวัด เช่น จ.อุบลราชธานี เขตเลือกตั้งที่ี 1 พบปัญหากาเบอร์ 10 พรรคก้าวไกล แต่นำบัตรไปใส่รวมกัน 3 เขต (เขต 1-2-3) ในกล่องเดียว ทำ ให้ประชาชนที่เลือกเบอร์ 10 ของเขต 1 เมื่อเอาไปใส่รวมกัน การตรวจสอบคะแนนแยกเขตจะไม่สามารถทำได้
เพราะเขต 2 เบอร์ 10 เป็นผู้สมัครพรรคปวงชนชาวไทย ส่วนเขต 3 เป็นผู้สมัครพรรคประชาธิปไตยใหม่ หรือ นครปฐม เขต 1 เบอร์ 1 เป็นพรรคก้าวไกล แต่เขต 2 เบอร์ 1 เป็นพรรคภูมิใจไทย
เนื่องจากแต่ละเขตมีหมายเลขไม่ตรงกันสำหรับ "บัตรเลือกคน” แต่สำหรับ “บัตรเลือกปาร์ตี้ลิสต์” มีระบุชื่อ พรรคและโลโก้อยู่ จึงมีปัญหาว่า “บัตรเลือกคน” เอาหลายเขตไปรวมใส่กล่องเดียวกัน ทำให้ไม่รู้ว่าบัตรประชาชนของใคร กาให้พรรคใด ไม่สามารถแยกแยะได้ เพราะบัตรมีลักษณะเหมือนกันหมด ไม่มีระบุชื่อใครเป็นใคร จึงเป็นการ
ตั้งใจกาให้ผู้สมัครพรรคหนึ่ง แต่ดันไปนับคะแนนให้อีกพรรคหนึ่งแทน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เลือกตั้ง2566 : กกต.สรุปภาพรวมเลือกตั้งล่วงหน้า คาดใช้สิทธิไม่น้อยกว่า 70%
เลือกตั้ง2566 : กกต.สรุปเรื่องร้องเรียนเลือกตั้งทั่วประเทศ 592 เรื่อง กทม.มากสุด