วันนี้ (28 เม.ย.2566) พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล หนึ่งในหัวหน้าชุดทำคดี ของนางสรารัตน์ หรือแอม ผู้ต้องหาที่สงสัยว่าก่อเหตุฆาตกรรม ด้วยการวางยา "ไซยาไนด์" กล่าวว่า การประชุมทางคดี ได้เรียกตำรวจแต่ละท้องที่เกิดเหตุ รวบรวมหลักฐาน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ประกอบสำนวนในคดี
ยืนยันพบมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 13 คน มีผู้เสียหายที่รอดชีวิต 1 คน แนวทางสืบสวน ยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงไปยังบุคคลอื่น จึงยังไม่ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติม
พล.ต.ต.นำเกียรติ กล่าวว่า ส่วนการสอบสวนสามี ซึ่งเป็นตำรวจ ตำแหน่งรองผู้กำกับการ ยังไม่พบหลักฐานความเกี่ยวข้องทางคดี และยังรอผลการตรวจหลักฐานภายในรถ แต่หากหลักฐานเชื่อว่ารู้เห็นในการกระทำผิด จะต้องเรียกมาสอบปากคำเพิ่ม
ทุกศพมีการชันสูตรพลิกศพ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือการแจ้งตายโดยแพทย์ และพนักงานสอบสวน ส่วนอีกขั้นตอนคือการผ่าพิสูจน์ แต่จะเป็นกรณีที่ญาติติดใจในการเสียชีวิต
อ่านข่าว "แอมไซนาไนด์" เข้าข่ายไซโคพาธ?
ศพสารวัตรปู-ก้อย มีไซยาไนด์ทำให้เสียชีวิต
พล.ต.ต.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิต ที่พบผลการตรวจสารไซยาไนด์ในร่างกาย มีปริมาณทำให้เสียชีวิตได้จำนวน 2 คนคือ การเสียชีวิตของก้อย เหตุการณ์ที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และการเสียชีวิตของสารวัตรปู ใน จ.นครปฐม ส่วนปริมาณเท่าใดนััน ไม่สามารถเปิดเผยได้ อยู่ในสำนวน
ส่วนพฤติการณ์การสารไซยาไนด์ ว่าเป็นลักษณะการใช้รูปแบบใด ไม่สามารถบ่งชี้ได้ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นระหว่างผู้ตาย กับผู้ต้องหาเท่านั้น แต่มีระยะเวลาการเสียชีวิต มีขั้นตอนตรวจสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และจะนำข้อมูลไปประกอบสำนวน
การจะดำเนินคดีผู้ต้องได้ อาจไม่ใช่เรื่องพบสารพิษในร่างกายอย่างเดียว มีหลายองค์ประกอบในการรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้
ส่วนความสัมพันธ์ เส้นทางการโอนเงิน ของผู้ต้องหา ว่าจะไปเกี่ยวข้องกับบุคคลใด อยู่ระหว่างสืบสวน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อะไรคือ? Sodium thiosulfate ยาแก้พิษไซยาไนด์
ค้นบ้านพี่สาว "แอม" พบสมุนไพร-แคปซูล รอผลพิสูจน์ไซยาไนด์