วันนี้ (26 เม.ย.2566) กองทัพอากาศจัดเครื่องบิน Airbus A340-500 จำนวน 1 ลำ และเครื่องบิน C-130 จำนวน 2 ลำ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลาซิซ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นจุดนัดหมาย ที่กระทรวงการต่างประเทศได้อพยพคนไทยจากสาธารณรัฐซูดานทั้งทางบกและทางเรือ มารวมตัวกันเพื่อรอเครื่องบินของกองทัพอากาศไปรับกลับประเทศไทย
เครื่องบินทั้ง 3 ลำจะเดินทางไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลาซิซในวันพรุ่งนี้ จากนั้นทั้ง 3 ลำจะรับคนไทยทั้งหมด 223 คน เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติ คิง อับดุลาซิซ เมืองเจดดาห์ ในเวลา 10.00 น. ของวันที่ 27 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น และจะกลับถึงไทยเที่ยวแรกด้วยเครื่อง Airbus ในเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 27 เม.ย. ตามเวลาไทย และเที่ยวที่ 2 ด้วยเครื่องบิน C-130 ในเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 28 เม.ย. ตามเวลาไทย
พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เปิดเผยว่า จำนวนคนไทยและครอบครัวที่แจ้งความประสงค์จะอพยพขณะนี้มีจำนวน 223 คน ส่วนใหญ่เป็นประชาชนและกลุ่มนักศึกษา ได้ขึ้นเรือข้ามจากท่าเรือซูดาน ผ่านทะเลแดง ไปที่เมืองเจดดาห์แล้ว 82 คน และยังอยู่ระหว่างรอขึ้นเรืออย่างไม่มีกำหนดอีก 133 คน และมีบางส่วนที่กำลังเดินทางมาที่ท่าเรือจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ หากสามารถขึ้นเรือข้ามมาได้ทั้งหมดเจ้าหน้าที่จะคัดกรองให้ผู้สูงอายุ ผู้หญิง ผู้ป่วย และเด็ก โดยสารด้วยเครื่องบิน Airbus มาก่อน ส่วนคนที่แข็งแรงให้โดยสารเครื่อง C-130 เนื่องจากต้องแวะเติมน้ำมันที่ดูไบและอินเดีย ทำให้ใช้เวลาเดินทางนานกว่า
ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวว่า ได้เตรียมปรับแผนกรณีฉุกเฉินหากคนไทยกลุ่มที่ 2 ไม่สามารถขึ้นเรือข้ามฟากมาได้ เนื่องจากมีประชาชนหลายชาติต้องการเดินทางออกจากซูดานเป็นจำนวนมาก ทำให้แย่งกันซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่และไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็จะประสานทางการของซาอุดิอาระเบียนำเรือและกำลังพลมาช่วยเหลือในการอพยพประชาชนบริเวณท่าเรือซูดานด้วย
และหากไม่สามารถนำคนไทยข้ามฟากมาได้อาจจะพิจารณานำเครื่องบิน C-130 ไปรับคนไทยที่สนามบินที่ Port of Sudan แต่ต้องพิจารณาเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก โดยหัวหน้าชุดจะประสานมาที่ผู้บังคับบัญชาในไทยให้พิจารณาแผนฉุกเฉินดังกล่าว แต่สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันสนามบินดังกล่าวยังไม่ปลอดภัยมากพอ
สำหรับมาตรการทางการแพทย์ กองทัพอากาศได้ส่งทีมแพทย์ไปดูแลคัดกรองประชาชนตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง และเมื่อมาถึงก็จะให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประเมินสุขภาพผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ทั้งหมดอีกครั้ง เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดต่อและเชื้ออุบัติใหม่ต่าง ๆ และหลังผ่านการคัดกรองแล้ว กรณีประชาชนมีภูมิลำเนาอยู่ที่ภาคใต้ ก็จะจัดเครื่องบิน C-130 ส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วิเคราะห์ : สมรภูมิ “ซูดาน” สะเทือน “ทวีปแอฟริกา”