กรณีโลกออนไลน์ตั้งข้อสังเกตคดีการเสียชีวิตของเน็ตไอดอลสาวและนักเรียนเตรียมทหาร ว่า คดีนี้ฝ่ายชายเสียชีวิตจริงหรือไม่ และมีขั้นตอนตรวจพิสูจน์ศพของฝ่ายชายในที่เกิดเหตุและการเก็บศพลงมาจากจุดเกิดเหตุ ถูกต้องตามขั้นตอนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่นั้น
วันนี้ (21 เม.ย.2566) พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ซึ่งเป็นหนึ่งในตำรวจที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยืนยันว่า คดีนี้ไม่ได้มีการให้การช่วยเหลือ หรือกระทำการอำพรางเหตุการณ์ใดๆ เกี่ยวกับการเสียชีวิต โดยยืนยันว่าฝ่ายชายเสียชีวิตจริงและมีการตรวจตามขั้นตอนตามกฎหมาย โดยมีพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์นิติเวชของโรงพยาบาลรามาธิบดี มีการตรวจสอบลักษณะบาดแผลของทั้ง 2 ศพ รวมถึงแนววิถีในเบื้องต้น
ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้งนำศพของฝ่ายหญิงออกจากที่เกิดเหตุก่อน และลำเลียงศพของฝ่ายชายออกตามมา ซึ่งในขั้นตอนเหล่านี้มีพ่อแม่และครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนรับทราบกระบวนการต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าหากมีการกระทำการผิดขั้นตอนก็จะถูกทักท้วงจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน
อ่านข่าว : "จีจี้" เน็ตไอดอลถูกยิงเสียชีวิต พร้อมเพื่อนชายคาคอนโด
ผบก.น.1 ยืนยันว่า คดีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบตามขั้นตอนอย่างตรงไปตรงมา และจะไม่ให้การช่วยเหลือบุคคลใด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ (21 เม.ย.) จะเรียกประชุมคณะตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าวมาไล่เรียงข้อมูลต่างๆ ที่ได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้รวบรวมได้ครบถ้วนแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีบุคคลที่ 3 เข้าไปหรือออกมาจากห้องเกิดเหตุ
นอกจากนี้ยังให้นำข้อมูลการผ่าชันสูตรศพอย่างละเอียดของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนมาตรวจสอบ และส่วนสุดท้ายคือผลการตรวจพิสูจน์เขม่าดินปืนที่ศพของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนว่าเป็นไปในลักษณะใด โดยคาดว่าจะสรุปประเด็นการสืบสวนสอบสวนในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อใช้เป็นแนวทางสืบสวนและสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับการสอบปากคำพยาน ขณะนี้ได้สอบปากคำครอบครัวของผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิงในเบื้องต้นแล้ว รวมถึงพยานแวดล้อมอื่นๆ ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตฝ่ายชายยังไม่สะดวกเข้าให้ปากคำ โดยขอเลื่อนเข้าให้ปากคำหลังจากประกอบพิธีทางศาสนาเรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าให้ดำเนินคดีกับเจ้าของปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น ผบก.น.1 ยืนยันว่า ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาเรื่องดังกล่าว แต่ต้องรอผลการตรวจสอบหตุการณ์จากหลายๆ หน่วย หากเป็นการจงใจใช้อาวุธปืนเพื่อการก่อเหตุ และเป็นความบกพร่องของเจ้าของปืนกระบอกดังกล่าวก็จะเรียกตัวมาสอบปากคำ และหากพบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินคดีตามขั้นตอน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบก.น.1 ยันทำคดี "จีจี้" ตามพยานหลักฐาน-ไม่มีอิทธิพลเกี่ยวข้อง