เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2566 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบิน โดยสนามบินลอนดอน ซิตี้ (London City Airport) ของอังกฤษ ยกเลิกการบังคับใช้กฎระเบียบห้ามนำของเหลวปริมาณเกิน 100 มิลลิลิตรขึ้นเครื่องบิน หลังจากบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2006
ซึ่งทำให้ขณะนี้ผู้โดยสารที่สนามบินลอนดอน ซิตี้ ไม่จำเป็นต้องนำสิ่งของใดๆ ออกจากกระเป๋าเดินทาง ในขั้นตอนตรวจกระเป๋าก่อนขึ้นเครื่องแล้ว หลังจากสนามบินฯ นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในขั้นตอนการตรวจกระเป๋า
ก่อนหน้านี้ มีการทดลองใช้เทคโนโลยีสแกนรุ่นใหม่มานานกว่า 1 ปี ก่อนจะนำเครื่องสแกนรุ่นใหม่ 4 เครื่องไปใช้งานจริง เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นสนามบินแห่งที่ 2 ของอังกฤษที่ใช้เทคโนโลยีนี้

เครื่องสแกนที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยรุ่นใหม่ จะแสดงผลออกมาในรูปแบบ 3 มิติ คล้ายกับเครื่อง CT สแกนที่ใช้ในโรงพยาบาล และยังสามารถประเมินได้ว่าของเหลวในกระเป๋าผู้โดยสารเป็นอันตรายหรือไม่ เพราะฉะนั้นผู้โดยสารที่ผ่านจุดตรวจรักษาความปลอดภัยในสนามบินนี้ จะสามารถนำของเหลวไม่เกิน 2 ลิตรขึ้นเครื่องได้ รวมทั้งไม่จำเป็นต้องนำแล็ปท็อปและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ออกจากกระเป๋าด้วย
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ มีขึ้นเพื่อบรรเทาปัญหาความล่าช้าที่มักเกิดขึ้นในขั้นตอนตรวจกระเป๋าเดินทาง หลังจากผู้โดยสารต้องแยกสิ่งของต่างๆ ใส่ถาด แต่ขณะนี้กระเป๋า 1 ใบ ใช้ถาดเพียง 1 ใบเท่านั้น ซึ่งจะช่วยลดเวลาและจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารได้ถึงร้อยละ 30 โดยอังกฤษตั้งเป้าว่าภายในเดือน มิ.ย.2024 สนามบินเกือบทั้งประเทศจะใช้เครื่องสแกนรุ่นใหม่

ด้านผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า สิ่งนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก เพราะจากการสำรวจพบว่าผู้โดยสารจำนวนมากเสียเวลาในจุดตรวจความปลอดภัย และความล่าช้าที่เกิดขึ้นกลายเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผู้โดยสารตกเครื่อง อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ สนามบินแห่งนี้เป็นสนามบินที่ตรวจกระเป๋าเร็วที่สุดในอังกฤษ โดยใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 12 นาทีเท่านั้น
สำหรับเทคโนโลยีดังกล่าวถูกใช้ในสนามบินของสหรัฐอเมริกามาแล้วหลายปี ซึ่งรวมถึงสนามบินในแอตแลนตาและชิคาโก
อ่านข่าวอื่นๆ
"ทรัมป์" ขึ้นศาลแมนฮัตตัน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาคดีอาญา