วันนี้ (28 ก.พ.2566) สมาคมผู้เลี้ยงสุกรจะประชุมหารือกับกรมปศุสัตว์ แก้ปัญหาราคาหมูตกต่ำ โดยจะหารือและหาทางออกใน 4 ประเด็น คือ การปราบปรามหมูเถื่อน การจัดระเบียบโบรกเกอร์ เร่งส่งออกและรักษาเสถียรภาพราคา เพื่อนำข้อเสนอจากการหารือนี้ถึง รมว.เกษตรและสหกรณ์และรัฐบาล เพื่อหาทางออกต่อไป
ขณะที่นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เปิดเผยว่า สาเหตุสำคัญที่เนื้อหมูราคาตกต่ำต่อเนื่องช่วงนี้ มาจากปัจจัยสำคัญคือการลักลอกนำเข้าหมูจากต่างประเทศ จึงอยากเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสกัด เพราะนอกจากจะกระทบกับราคาหมูในประเทศแล้ว ยังอาจส่งผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของโรค
อีกหนึ่งข้อสังเกตของปัญหาราคาหมูตกต่ำ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ ระบุว่า อาจมาจากผู้ประกอบการรายใหญ่ขายเนื้อหมูในราคาถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้น เตรียมร่วมกับตัวแทนผู้เลี้ยงหมูเข้าพบอธิบดีกรมปศุสัตว์ในวันนี้ (28 ก.พ.) เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหา
เปิดตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างพบ "หมูเถื่อน" 90,000 กก.
การดำเนินการเคลียร์ตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงติดตามตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เปิดตู้คอนเทนเนอร์ที่ตกค้างเกิน 30 วัน จำนวน 5 ตู้ โดยพบว่าเป็นเนื้อหมู 3 ตู้ ส่งมาจากประเทศบราซิลและรัสเซีย ประมาณ 90,000 กิโลกรัม
ล่าสุด นายฐิติพงศ์ คำผุย ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร 1 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ระบุว่า ปัจจุบันอยู่ระหว่างส่งตัวอย่างชิ้นส่วนหมูให้กรมปศุสัตว์ตรวจสอบว่าเป็นสินค้าต้องห้ามหรือไม่
หากตรวจสอบพบเป็นสินค้าต้องห้าม จะส่งกลับสินค้าทั้งหมดให้กรมปศุสัตว์นำไปทำลายต่อ ขณะที่ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังได้ประชุมเร่งรัดให้ดำเนินการเคลียร์ตู้สินค้าที่เหลือ ให้แล้วเสร็จตามแผนในช่วงเดือน มี.ค.2566
ส่วนตู้สินค้าที่รอเปิดเพื่อตรวจสอบมีเพียง 60 ตู้ และอีกประมาณ 90 ตู้มีหนังสือแจ้งผ่อนผันจากบริษัทนำเข้า ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จต่อไป
อ่านข่าวอื่นๆ