วันนี้ (3 ก.พ.2566) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้ลงนามในเอกสารสรุปผลการสอบสวนวินัยร้ายแรง นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานฯ โดยให้ออกจากราชการไว้ก่อน มีผลทันที
ทั้งนี้หลังจาก นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัด ทส.ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯ ส่งรายงานความก้าวหน้าจากการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมกว่า 50 ปาก ส่วนใหญ่ให้การเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตามข้อกล่าวหาคือผิดวินัยร้ายแรง แต่มีเพียงบางคนให้การว่า เป็นเงินจ่ายค่าพระบรมรูปจำลอง รัชกาลที่ 5 และการรวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ
เบื้องต้นข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า มีการกระทำผิดจริงสอดคล้องกับหลักฐานที่รวบรวม จึงมีคำสั่งให้ นายรัชฎาออกจากราชการไว้ก่อน มีผลตั้งแต่วันนี้ (3 ก.พ.) เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างโปร่งใส ที่สำคัญลดแรงกดดัน และความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของข้าราชการในสังกัด
อ่านข่าวเพิ่ม สรุปผลสอบ "รัชฎา" ผิดวินัยร้ายแรงปมสินบนกรมอุทยาน
นายจตุพร กล่าวว่า นับจากจากนี้ยังคงต้องสอบพยานเพิ่มเติมในขั้นตอนการสอบวินัยร้ายแรงต่อไปให้เสร็จกระบวนการครบถ้วนทั้งหมด ทั้งนี้คณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงฯ จะสอบสวนเพิ่มเติมหากพบมีบุคคลใดในองค์กรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ในเรื่องนี้ โดยให้ยึดแนวปฏิบัติถูกคือถูกผิดคือผิดและให้เป็นไปตามพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริง
นายเถลิงศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากนี้จะเรียก นายรัชฎา เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา โดยจะให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ เบื้องต้นจากคำให้การของพยานและหลักฐานยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นๆว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง
ขณะที่ นายจตุพรให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า จากรายงานความก้าวหน้าการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงในเบื้องต้น พบว่า ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพพจน์ของข้าราชการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงกระทบต่อความรู้สึก ความเชื่อถือศรัทธาของพี่น้องประชาชน
อีกทั้ง การพิจารณาพยานหลักฐานและการสอบสวนพยานบุคคลที่ถูกกล่าวหาอ้างถึง จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการสอบสวน เพื่อให้ครอบคลุมทุกข้อกล่าวหาและทุกประเด็น ซึ่งคาดว่าจะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว
ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ร้ายแรง มีผลกระทบต่อชื่อเสียงของหน่วยงาน และความเชื่อมั่นของประชาชนในการบริหารงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เป็นอย่างมาก
หากจะให้นายรัชฎาอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไป อาจเกิดการเสียหายแก่ราชการ ซึ่งเป็นเหตุให้พักงานได้ตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัย พ.ศ. 2556 ข้อ 78 (1) ประกอบกับพิจารณาแล้วว่า การสอบสวนในกรณีนี้จะไม่แล้วเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง มีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดอีกหลายขั้นตอน และมีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ตนจึงได้ออกคำสั่งให้ นายรัชฎา ออกจากราชการไว้ก่อน ตามกฎ ก.พ.ฯ ข้อ 83 โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 2566) เป็นต้นไป
ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสรุปผลการสอบสวนวินัยร้ายแรงเป็นไปอย่างยุติธรรม และเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ซึ่งการลงนามในคำสั่งให้นายรัชฎา ออกจากราชการไว้ก่อนในครั้งนี้ เป็นไปตามกฎ ก.พ.ฯ อีกทั้งเพื่อให้สาธารณชนได้รับทราบถึงความคืบหน้าของการสอบสวนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคลายกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อุทยานฯ ชี้สลับ 3 ตำแหน่งปมที่ดิน-ร้องเรียน เร่งคืนเก้าอี้กลุ่มไม่เป็นธรรม