วันนี้ (27 ม.ค.2566) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ว่า จากการพยากรณ์ในวันที่ 26-27 ม.ค.นี้ มีค่าฝุ่นสูงขึ้น เนื่องจากอากาศที่กดลงและมีลมต่ำ แต่คาดว่าในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ สถานการณ์ฝุ่นจะคลี่คลาย
นายชัชชาติ กล่าวว่า กทม.มีมาตรการเร่งกำจัดแหล่งกำเนิดมลพิษ ซึ่งในช่วงนี้จะเห็นว่ามีการเผาชีวมวลที่เพิ่มสูงขึ้น จึงได้มีการส่งจดหมายถึงจังหวัดข้างเคียง เพื่อให้ช่วยกันกำกับดูแลในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันในพื้นที่ กทม.เองก็มีไฟไหม้หญ้า และการเผาขยะของคนไร้บ้าน ซึ่งก็ต้องกำชับเรื่องนี้ให้มากขึ้น
การขอความร่วมมือทำงานแบบ WFH ซึ่งมีบริษัทที่ให้ความร่วมมือประมาณ 30 กว่าแห่ง ทั้งนี้ทุกฝ่ายยังต้องร่วมมือกันในเรื่องของการควบคุมดูแลที่แหล่งกำเนิดฝุ่น และการเตรียมตัวในการรับมือกับฝุ่น
นอกจากนี้ รายงานจากการตรวจสอบข้อมูลจุดความร้อนผ่านดาวเทียม พบจุดความร้อนที่ดาวเทียมตรวจพบค่าความร้อนสูงผิดปกติ จากค่าความร้อนบนผิวโลกบริเวณพื้นที่ กทม.เมื่อเวลา 02.10 น. เขตหนองจอก แต่ยังไม่ข้อมูลเพิ่มเติมว่าจุดความร้อนนั้นเกิดจากอะไร
สำหรับการตรวสอบแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 ของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย
- สถานประกอบการ/โรงงาน 60 แห่ง 15 เขต
- สถานที่ก่อสร้างสำนักการโยธา กทม. 52 แห่ง
- สถานที่ก่อสร้างเอกชน 29 แห่ง 8 เขต
- แพลนท์ปูน 4 แห่ง 2 เขต
- ตรวจควันดำรถ (ต้นทาง) 7 แห่ง 2 เขต
- จุดตรวจจับรถปล่อยควันดำ 20 จุด
จากข้อมูลการตรวจวัดฝุ่น PM 2.5 เมื่อเวลา 07.00 น.ในพื้นที่กทม.ตรวจวัดได้ 36-74 มคก.ต่อลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 52.1 มคก.ต่อลบ.ม.
ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีค่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ จำนวน 43 พื้นที่ ดังนี้
- เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ 74 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 71 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตหนองจอก บริเวณหน้าสำนักงานเขตหนองจอก 69 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ มีค่าเท่ากับ 66 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตคลองสามวา 64 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน 62 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ 60 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 60 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ 59 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- สวนหนองจอก เขตหนองจอก เขตหนองจอก 58 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตบางบอน ใกล้ตลาดสุขสวัสดี 58 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา 58 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตดอนเมือง ด้านข้างสำนักงานเขตดอนเมือง 58 มคก.ลบ.ม.
- เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ 57 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี 57 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม 57 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตหลักสี่ มีค่าเท่ากับ 56 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา 56 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- สวนพระนคร เขตลาดกระบัง 56 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : มีค่าเท่ากับ 56 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : มีค่าเท่ากับ 56 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- สวน 60 พรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เขตลาดกระบัง เขตลาดกระบัง : มีค่าเท่ากับ 56 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด 55 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตสาทร สี่แยกหน้าสำนักงานเขตสาทร ซอย ถนนเซนต์หลุยส์ 55 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ 55 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตดินแดง ริมถนนวิภาวดีรังสิต 55 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 54 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน 54 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย 54 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตคันนายาว 53 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตสัมพันธวงศ์ วงเวียนโอเดียน 53 มคกต่อ ลบ.ม.
- สวนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม เขตบึงกุ่ม 52 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ 52 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตพระโขนง 52 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตบางรัก 52 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตสายไหม 52 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตบางขุนเทียน 51 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตราษฎร์บูรณะ 51 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- สวนธนบุรีรมย์ เขตทุ่งครุ 51 มคก.ต่อลบ.ม.
- สวนรมณีย์ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง 51 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตพญาไท หน้าแฟลตทหารบกใกล้ รพ.วิชัยยุทธ 51 มคก.ต่อลบ.ม.
- เขตจตุจักร ด้านหน้า ม.เกษตรศาสตร์ 51 มคก.ต่อ ลบ.ม.
- เขตคลองเตย 51 มคก.ต่อลบ.ม.
เล็งรับมือฝุ่นจิ๋วระลอกใหม่ 1-2 ก.พ.นี้
สาเหตุที่ฝุ่นเกินมาตรฐาน เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากเกิดสภาวะอากาศปิดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง PM2.5 มีแนวโน้มค่อนข้างทรงตัว ถึงลดลงเล็กน้อย ประกอบกับ กทม.และปริมณฑลอากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส
โดยช่วงวันที่ 27-28 ม.ค.นี้ และช่วงวันที่ 1-2 ก.พ.นี้ พื้นที่กทม.ปริมณฑล ควรเฝ้าระวังการสะสมของฝุ่นละออง เนื่องจากสภาพอากาศที่นิ่งและปิด โดยพื้นที่ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ พื้นที่กรุงเทพกลาง กรุงธนเหนือ และกรุงธนใต้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
11 บริษัทตอบรับ Work from Home ลด PM 2.5
เตือนฝุ่นระลอกใหม่ 27-28 ม.ค.นี้ พบ 7 จังหวัดมีผลกระทบสุขภาพ