เมืองทุนอาชญากรรุกคืบ-ประชิด-ปิดล้อมไทย

กลุ่มทุนอาชญากรหาประโยชน์จากนโยบาย BRI ของจีน

โครงการ BRI หรือ Belt and Road Initiative ซึ่งรู้จักในชื่อภาษาไทยว่า “แถบและทาง” เป็นยุทธศาสตร์ระดับโลกของจีน เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2556 ภายใต้รัฐบาลของนายสี จิ้นผิน ที่ต้องการเชื่อมเศรษฐกิจจีนกับโลกเข้าด้วยกัน ผ่านระบบการคมนาคมทั้งทางน้ำและทางบก ท่อขนส่งแก๊สและน้ำมัน รวมถึงเครือข่ายการสื่อสารระบบดิจิทัล

แผนที่เครือข่ายโครงการแถบและทาง (BRI)

ข้อมูลที่ปรากฏในรายงานเรื่อง China's Belt and Road Initiative: A web of (illicit) trade routes ปี 2564 จากองค์กร Global Initiatives Against Transnational Organized Crime ระบุว่า มีอย่างน้อย 140 ประเทศที่ลงนามความร่วมมือนี้ และมี 70 ประเทศทั่วโลกเกี่ยวข้องกับโครงการต่างๆ ของ BRI โดยประเทศจีนทุ่มเงินลงทุนไปแล้วอย่างน้อย 840 ล้านล้านบาท

หากโครงข่ายที่วางไว้เกิดขึ้นจริง จะลดเวลาการเดินทางขนส่งสินค้าในเส้นทางต่างๆ ได้ร้อยละ 12 เพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ ได้ร้อยละ 2.7-9.7 สร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 3.4 และช่วยให้ประชาชนกว่า 7.6 พันล้านคนพ้นจากความยากจน

บทวิเคราะห์จากรายงานเดียวกันยังระบุว่า ไม่ใช่ทางการจีนไม่รู้ว่า กลุ่มอาชญากรก็หาประโยชน์จากโครงการนี้ เพราะที่ผ่านมาสภาแห่งรัฐของจีนจัดทำแนวทางกำหนดการลงทุนต้องห้ามที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติหรือผิดกฎหมาย เช่น การพนันและสื่อโป๊อนาจาร แต่อย่างไรก็ตามกลับพบว่า ในเขตเศรษฐกิจพิเศษต่างๆ ที่สร้างโดยเงินลงทุนของชาวจีน ธุรกิจการพนันกลับเฟื่องฟู และกลายเป็นพื้นที่ค้าสิ่งผิดกฎหมาย ฟอกเงิน และการฉ้อโกงทุกประเภท

เบื้องหลังธุรกิจกาสิโน และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บางส่วนในสีหนุวิลล์ จ.พระสีหนุ และ โครงการดาราสาคร จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นอีกจุดยุทธศาสตร์ของโครงการ BRI ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของฐานทำงานอาชญากรรมไซเบอร์ข้ามชาติ และมีคนไทยจำนวนมากถูกชักชวนให้ไปทำงานกับกลุ่มอาชญากรรมเหล่านี้

ในปี 2565 มีคนไทยอย่างน้อย 1,300 คน ได้รับการช่วยเหลือออกมาจากกัมพูชา ในจำนวนนี้มี 40 คนที่ได้รับการช่วยเหลือมาจากลองเบย์ดาราสาคร (Long Bay Dara Sakor)

เฉอ เจ้อเจียง จากลองเบย์ดาราสาครสู่ชเวโก๊กโก่

“ลองเบย์ดาราสาคร” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในกัมพูชา ชื่อว่าโครงการดาราสาคร ประกอบด้วยรีสอร์ท โรงแรม กาสิโน สนามบิน และท่าเรือน้ำลึกที่ใช้ได้ทั้งกิจการทหารและพาณิชย์ ถึงแม้โครงการนี้เกิดขึ้นก่อนยุทธศาสตร์ BRI แต่ภายหลังถูกผนวกเข้าไป และกลายเป็นพื้นที่นำร่องการพัฒนาและการลงทุนแบบครบวงจรจีน-กัมพูชา

ลองเบย์ดาราสาคร จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา

ผู้ลงทุนหลัก คือ บริษัท ยูเนี่ยนเดเวลล็อปเม้นท์ กรุ๊ป หรือ UDG บริษัทสัญชาติจีน ซึ่งถูกกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ คว่ำบาตร โดยกล่าวหาว่า บริษัทฯ สนับสนุนให้ทางการกัมพูชาขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ และทำลายสิ่งแวดล้อมเพราะที่ตั้งโครงการอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ

ภาพนายเฉอตอนเปิดตัวโครงการลองเบย์ดาราสาคร (ภาพจาก China-Cambodia monitor)

ข้อมูลที่ได้จากสำนักข่าวอัลจาซีร่าทำให้รู้ว่า ผู้ลงทุนหลักร่วมกับ UDG ในลองเบย์ดาราสาคร คือ นายเฉอ เจ้อเจียง (She Zhejiang) ชาวจีนที่เปลี่ยนมาถือสัญชาติกัมพูชา เขามีหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น She Lunkai, Dylan She หรือ Tang Kriang Kai

นายเฉอเป็นชาวจีนโดยกำเนิด แต่ต่อมาเปลี่ยนเป็นผู้ถือสัญชาติกัมพูชา ซึ่งสามารถทำได้หากเขาบริจาคเงินจำนวนอย่างน้อย 8 ล้านบาทให้กับกองทุนของรัฐบาลกัมพูชา หรือร่วมลงทุนกับโครงการที่รัฐบาลกัมพูชาอนุมัติ อย่างน้อย 10 ล้านบาทขึ้นไป

นายเฉอ เจ้อเจียง (She Zhejiang)

ในปี 2560 นายเฉอ ก่อตั้งบริษัทหยาไถ่ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Yatai International Holding Group หรือ Yatai IHG) ร่วมกับนักธุรกิจชาวจีนอีกสองคน คือนายหม่า ตงหลี่ (Ma Dongli) และนายซ่ง เป้าเจีย (Zhong Baojia)

เมืองชเวโก๊กโก่ บันทึกภาพเมื่อมกราคม 2566

กลุ่มทุนหยาไถ่เข้าไปลงทุนพัฒนาเมืองใหม่ครบวงจร ชื่อว่า “ชเวโก๊กโก่” (Shwe Kokko) บนพื้นที่ของพันเอกชิต ตุ ผู้นำกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยง (กะเหรี่ยง BGF) เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ประชิดกับชายแดนไทยบริเวณรอยต่อ อ.แม่ระมาด และ แม่สอด จ.ตาก

เมืองชเวโก๊กโก่กำลังถูกจับตาจากนานาชาติว่าเป็นฐานอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติระดับโลก ในฐานะเมืองกาสิโน พนันออนไลน์ และสแกมเมอร์ออนไลน์ ผลิตสื่อลามกผิดกฎหมาย ค้ายาเสพติด และฟอกเงิน ไม่ต่างจากลองเบย์ดาราสาคร จ.เกาะกง แหล่งลงทุนแรกของเฉอที่กัมพูชา

ทุนหยาไถ่เล็งผุดเมืองคู่แฝด – กาสิโน ในไทย

ไทยพีบีเอสพบว่า ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ทุนหยาไถ่ IHG พยายามเข้ามาเสนอไอเดียสร้างเมืองคู่แฝดใน อ.แม่สอด จ.ตาก ของไทย โดยเข้าหารือกับข้าราชการระดับสูง และนักการเมืองท้องถิ่นใน อ.แม่สอด แต่สุดท้ายโครงการนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้น จากข้อจำกัดต่างๆ ของกฎหมายไทยและความไม่ชัดเจนของรูปแบบโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตากของไทย

อย่างไรก็ตาม การเดินทางพบปะหารือเพื่อขายแนวคิดของกลุ่มทุนหยาไถ่ชะงักลงในช่วงการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากด่านพรมแดนระหว่างสองประเทศปิดชั่วคราว

จากซ้าย นายหม่า ตงหลี่ และนายเฉอ เจ้อเจียง เข้าพบปะนักการเมืองระดับสูงของ อ.แม่สอด

The EXIT ไทยพีบีเอสพบว่า กลุ่มทุนหยาไถ่เข้ามาให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร และกาสิโนถูกกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 ผ่านการประชุมออนไลน์

เนื้อหาส่วนหนึ่งในเอกสารการประชุม ระบุว่า บริษัทฯ สนใจสร้างเมืองใหม่อัจฉริยะที่ อ.แม่สอด ผู้เข้าประชุมคือนายหม่า ตงหลี่ และซ่ง เป้าเจีย ผู้บริหารของกลุ่มทุนหยาไถ่ นอกจากนี้ บริษัทได้เข้าครอบครองหรือ take over โครงการ Bangkok Smile Square ตึก 32 ชั้น ในย่านใจกลางกรุงเทพ บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ มีแผนทำเป็น Entertainment Complex และแม้ว่าไม่ได้รับใบอนุญาตให้เปิดกาสิโน บริษัทฯ ก็จะทำโครงการนี้ต่อ

บันทึกการประชุม กมธ.ฯ ที่เชิญทุนหยาไถ่มาให้ข้อมูล

บันทึกการประชุม กมธ.ฯ ที่เชิญทุนหยาไถ่มาให้ข้อมูล

บันทึกการประชุม กมธ.ฯ ที่เชิญทุนหยาไถ่มาให้ข้อมูล

มีข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะนายเฉอ ประธานบริษัทหยาไถ่ ถูกตำรวจสากลออกหมายจับจากข้อหาหลอกประชาชนในหลายประเทศผ่านการพนันออนไลน์มูลค่าความเสียหายกว่า 5,000 ล้านบาท เขาจึงไม่ได้ปรากฏตัวในวันให้ข้อมูลกับ กมธ.ฯ

หมายจับตำรวจสากล ออกเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ขณะที่ นายเฉอถูกตำรวจไทยควบคุมตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ขณะกำลังรับประทานอาหารกับบุคคลที่มีชื่ออยู่ในแวดวงชนชั้นสูงคนหนึ่งของไทย

ปัจจุบัน นายเฉออยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเมืองชเวโก๊กโก่ไม่ได้หยุดชะงักลง เพราะหุ้นส่วนอีกสองคนยังรับช่วงการบริหารงานต่อ

นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด บอกว่า ทางอัยการสูงสุดมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับศาล โดยสำนักงานอัยการต่างประเทศยื่นคำร้องต่อศาลไปแล้ว และมีนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ที่ศาลอาญารัชดา

เมืองใหม่หวันหยาอินเตอร์เนชันแนลฯ ติดชายแดนแม่สอด

เมืองใหม่หวันหยาอินเตอร์เนชั่นแนล (Huanya International City) เริ่มก่อสร้างในปี 2563 ในเขตอิทธิพลของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยงหรือ KNU ของพันโทโรเจอร์ ขิ่น จากแผนที่พบว่าเมืองนี้ตั้งอยู่ตรงข้าม ต.แม่ตาว อ.แม่สอด มีข้อมูลว่า ที่นี่เป็นฐานอาชญากรรมไซเบอร์อีกแห่งหนึ่งที่ย้ายจากสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา

เมืองหวันหยาอินเตอร์เนชันแนล บันทึกภาพเมื่อมกราคม 2566

ข้อมูลจากรายงานเรื่อง Myanmar’s Casino Cities: The Role of China and Transnational Criminal Networks ของสถาบันสันติภาพแห่งสหรัฐอเมริกา หรือ USIP ระบุว่า การสร้างเมืองใหม่หวันยาอินเตอร์เนชันแนลใช้เงินลงทุนมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท

ผู้ลงทุนหลัก คือ บริษัทหวันหยา อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่งก่อตั้งในปี 2562 โดยนักธุรกิจชาวจีน 2 คน ชื่อว่า Chen An และ Zhang Zhiyon ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลหลายสกุล รวมถึงทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นที่ตั้งของกาสิโนหลายแห่งในเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา

พิกัดเมืองหวันหยาอินเตอร์เนชันแนล

หลังจากรัฐบาลกัมพูชาปราบปรามธุรกิจพนันออนไลน์ในประเทศอย่างหนัก เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลุ่มทุนเหล่านี้ ย้ายมาตั้งฐานทำงานในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ด้วยข้อได้เปรียบว่าที่นี่ไม่มีกฎหมายใดๆ ควบคุมกิจการพนันและสแกมเมอร์ออนไลน์

คนไทยที่ถูกนายหน้าชาวไทยชักชวนไปทำงานในเมืองใหม่หวันหยาฯ เมื่อเดือน ก.ค.2565 บอกว่า ภายในอาคารสมัยใหม่ของเมืองหวันหยาฯ เป็นที่ทำงานของสแกมเมอร์ออนไลน์หลายสัญชาติ แต่ที่พบส่วนใหญ่เป็นชาวจีนหรือชาวมาเลเซียที่พูดภาษาจีน งานที่พวกเขาถูกว่าจ้างให้ทำคือ คอลเซ็นเตอร์ หลอกเงินจากคนประเทศต่างๆ

เมือง KK ฐานอาชญากรรมใหม่ของอดีตหัวหน้ากลุ่ม 14K

เขตอุตสาหกรรมไซซีกัง มีเนื้อที่ประมาณ 20 ตร.กม. ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนหน้านี้เรียกว่าเมือง AA ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นเมือง KK ผู้ลงทุนสร้างเมืองใหม่เพื่อเป็นฐานทำงานกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์เกือบทุกรูปแบบ คือนายหวัน ค็อกคอย อดีตหัวหน้ากลุ่ม 14K จากมาเก๊า

เมือง KK บันทึกภาพเมื่อมกราคม 2566

ฝ่ายความมั่นคงของไทยในพื้นที่ให้ข้อมูลกับไทยพีบีเอสว่า เมือง KK อยู่ในเขตอิทธิพลของพันตรี เต่งวิน รองผู้บังคับกองพันกองกำลัง (กะเหรี่ยง BGF) มีข้อมูลว่า พันตรีเต่งวินมีความสัมพันธ์อันดีกับพลเอกอาวุโสมินอ่องหล่าย นายกรัฐมนตรีของเมียนมาคนปัจจุบัน เมื่อมินอ่องหล่ายขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาล เขาได้ให้สิทธิในที่ดินผืนหนึ่งแก่พันตรีเต่งวิน นั่นก็คือที่ตั้งของเมือง KK ในปัจจุบัน

นายหวัน ค็อกคอย หรือ ฉายาไอ้ฟันหลอ

ผู้ลงทุนหลักของเมือง KK คือบริษัท ตงเหมยกรุ๊ป (Dongmei group) ประธานบริษัทชื่อนายหวัน ค็อกคอย (Wan Kouk-koi) ฉายาไอ้ฟันหลอ อดีตหัวหน้ากลุ่ม 14K ซึ่งเป็นกลุ่มอาชญากรระดับโลก

ในปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่นายหวันเริ่มมาลงทุนสร้างเมืองใหม่ KK ที่เมียวดี ประเทศเมียนมา เขาถูกกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ประกาศมาตรการลงโทษคว่ำบาตรทางการเงิน ส่งผลให้ตงเหมยกรุ๊ป และบริษัทของนายหวันที่ประเทศปาเลา รวมถึงสมาคมเผยแพร่วัฒนธรรมจีนที่เขาก่อตั้งขึ้นที่ประเทศกัมพูชา อยู่ในรายชื่อองค์กรที่ถูกคว่ำบาตรตามไปด้วย

สื่อของสิงคโปร์รายงานว่า นายหวันมีหมายจับของมาเลเซียในข้อหาฉ้อโกง มูลค่ากว่า 40 ล้านบาทเมื่อปี 2563 และยังมีชื่อเกี่ยวพันกับอาชญากรรมในมาเลเซียหลายคดี ทำให้เขากลายเป็นอาชญากรที่เป็นที่ต้องการตัว ถึงแม้ไม่ได้เป็นสมาชิกกลุ่ม 14K แล้ว

ภาพนายหวัน ค็อกคอยเปิดตัวโครงการเขตอุตสาหกรรมไซซีกัง กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย

นายหวันกล่าวในงานเปิดตัวโครงการที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียเมื่อปี 2563 ต่อหน้านักลงทุนชาวมาเลเซียว่า ตงเหมยกรุ๊ปตัดสินใจลงทุนโครงการนี้ เนื่องจากเมืองเมียวดีที่ตั้งของเมือง KK “เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของรัฐบาลเมียนมา และเป็นจุดผ่านแดนที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเมียนมา” โดยเขาตั้งใจจะพัฒนาให้เป็นเมืองเซินเจิ้นของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ภาพพิกัดเมือง KK หรือ เขตอุตสาหกรรมไซซีกัง

แต่ดูเหมือนแนวทางการพัฒนาเมืองใหม่ของอดีตหัวหน้ากลุ่ม 14K จะเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม ขณะนี้ ในสายตาชาวโลก KK กลายเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ หลอกลวงคนจากประเทศต่างๆ ให้มาทำงานเป็นสแกมเมอร์ออนไลน์ ใครทำงานไม่ได้ตามเป้าจะถูกทำร้าย ทุบตี

ล่าสุด เดือนกันยายนปีที่แล้ว พบผู้เสียชีวิตเป็นชายสัญชาติมาเลเซีย ชายคนนี้ที่ถูกแฟนสาวซึ่งพบกันในโลกออนไลน์ หลอกให้เดินทางมาพบกันที่ประเทศไทย แต่สุดท้ายกลับลวงให้มาทำงานเป็นสแกมเมอร์ที่เมือง KK

หญิงไทยที่เคยถูกหลอกไปทำงานค้าประเวณีในปี 2564 ให้ข้อมูลว่า เมือง KK มีประชากรประมาณ 1 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นคนจีน ขณะที่ คนเมียนมาที่อยู่ที่นี่มักเป็นลูกจ้าง หรือทำงานตำแหน่งรักษาความปลอดภัย เงินเดือนเริ่มต้นที่ 7,500 บาท

ที่นี่มีศูนย์การค้าแบรนด์เนม โรงแรม กาสิโน และโรงพยาบาลขนาดใหญ่ซึ่งมีแพทย์ประจำโรงพยาบาลเป็นคนจีน มีบ้านเดี่ยวสุดหรูเป็นที่อยู่ของเถ้าแก่ใหญ่และครอบครัว ขณะที่ ลูกจ้างทำงานสแกมเมอร์ออนไลน์อยู่ในหอพักรวมกัน เช่นเดียวกับผู้หญิงจากประเทศต่างๆ ที่ถูกหลอกมาทำงานขายบริการ

ด้านซ้ายคือเมือง KK ที่อยู่ติดกับ ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก

เมือง KK ใช้สกุลเงินไทยเป็นหลัก สำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ สาธารณูปโภคที่ซื้อจากไทย คือ ไฟฟ้า ขณะที่ สัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือสามารถใช้เครือข่ายของไทยได้ทุกค่าย โดยไม่ต้องเปิดโรมมิ่ง ทำให้ความเป็นอยู่ในเมือง KK สะดวกสบายแต่ค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไทยและไม่มีข้อห้ามเสพหรือค้ายาเสพติด

ไทยศูนย์กลางแรงงานธุรกิจพนัน-สแกมเมอร์ออนไลน์

ก่อนด่านพรมแดนแม่สอด เปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 12 ม.ค.2565 หน่วยงานความมั่นคงไทยสามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้า-ออกราชอาณาจักรได้เกือบทุกวัน มีทั้งคนจากประเทศแอฟริกา อินเดีย กลุ่มประเทศอาเซียน รวมถึงจีน ส่วนใหญ่ยอมรับว่าเข้าไปทำงานสแกมเมอร์ตามเมืองใหม่ต่างๆ ที่อยู่ติดกับชายแดนไทย โดยอาศัยช่องทางธรรมชาติเป็นจุดข้ามแดน

สำนักข่าวเนชั่นจากประเทศเคนยารายงานเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า ชาวเคนยาจำนวนมากถูกล่อลวงให้ไปทำงานที่เมืองใหม่ต่างๆ ในเมืองเมียวดี โดยถูกหลอกลวงว่าให้มาทำงานที่กรุงเทพ

จากคำบอกเล่าของลิเลียน มุนยาซี (Lilian Munyasi) ชาวเคนยา วัย 29 ปี เล่าว่าต้นปี 2565 เธอถูกชักชวนให้ไปสมัครงานเป็นครูสอนนักเรียนมัธยมปลายในประเทศไทย เมื่อจ่ายค่าวีซ่าและตั๋วเครื่องบินแล้ว เธอถูกเพิ่มเข้าไปในกลุ่มแช็ตผ่านแอปพลิเคชัน “Whatsapp” และถูกสัมภาษณ์งานโดยชาวเคนยาและชาวไทย

มุนยาซีออกเดินทางจากเคนยาเมื่อวันที่ 8 ส.ค.2565 เมื่อมาถึงประเทศไทย มีรถมารอรับเธอและชาวเคนยาอีกกลุ่มหนึ่งเดินทางออกจากกรุงเทพ นำไปส่งยังที่ทำงานในเมียนมา

เราพบว่าตัวเองอยู่ในไร่มันสำปะหลังและไร่ข้าวโพดก่อนจะข้ามแม่น้ำด้วยเรือลำเล็กเพื่อไปหาคนถือดาบที่รอเราอยู่ เมื่อมาถึงจุดนี้ เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติอย่างมาก

มุนยาซีกล่าว

เช้าวันต่อมา มุนยาซีและชาวเคนยาคนอื่นๆ ได้รับแจ้งว่างานของพวกเขาคือการหลอกลวงผู้ชายจากประเทศใดประเทศหนึ่งผ่านการแอบอ้าง ลักษณะงานคือให้ดาวน์โหลดภาพผู้หญิงสวยจากสื่อสังคมออนไลน์ และสวมบทบาทเป็นผู้หญิงคนนั้น เพื่อหลอกล่อผู้ชายที่ดูร่ำรวยให้ตกหลุมรัก

จากนั้นจึงหลอกให้ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หากทำไม่ได้ตามเป้าที่นายจ้างชาวจีนกำหนด พวกเธอจะถูกทำร้าย ทุบตี หรือให้ทำงานล่วงเวลา ในระหว่างที่อยู่ที่นั่น มุนยาซีได้ยินข่าวเป็นระยะว่า คนงานบางคนถูกขายต่อไปที่อื่น บ้างหายตัวไป

มีข่าวลือว่าบางคนถูกตัดเก็บอวัยวะ ก่อนนำร่างทิ้งลงแม่น้ำ

มุนยาซีและเพื่อนชาวเคนยาจำนวนหนึ่ง ขอความช่วยเหลือไปยังองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ เอ็นจีโอ รวมถึงสถานกงสุลเคนยาในประเทศไทย เธอได้รับความช่วยเหลือออกจากที่ทำงานในเมืองเมียวดี เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 โดยมีทหารของฝั่งไทยเข้ามารับที่ริมแม่น้ำเมย ก่อนประสานส่งตัวไปยังกรุงเทพ

The EXIT นำภาพถ่ายที่เธอลงไว้ในช่องยูทูปของเธอ ไปสอบถามกับแหล่งข่าวใน อ.แม่สอด ได้รับการยืนยันตรงกันว่า จุดที่เธอข้ามออกมาคือชายแดนไทยตรงข้ามเมือง KK ของนายหวัน ค็อกคอย

ภาพวันที่มุนยาซีและชาวเคนยาคนอื่นๆ เดินทางออกจากเมือง KK ข้ามแม่น้ำเมยมายังฝั่งไทย (Youtube: @Lilymunyasidiary)

เมื่อสอบถามไปยังสภาความมั่นคงแห่งชาติถึงนโยบายของประเทศไทยเกี่ยวกับการรับมือปัญหาอาชญากรรมจากเมืองใหม่ติดชายแดนไทยด้านจังหวัดตาก ทีมข่าวยังไม่ได้รับความเห็นใดๆ ในตอนนี้

 

จิราภรณ์ ศรีแจ่ม ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส รายงาน