ไม่มีความสามารถพอที่จะเป็นผู้นำอีกต่อไป
คำอธิบายจากการแถลงลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ในต้นเดือน ก.พ. ของ จาซินดา อาเดิร์น
วันนี้ (19 ม.ค.2566) สำนักข่าว BBC รายงานผู้นำหญิงที่อายุน้อยที่สุดในโลกในขณะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในการทำงานที่ท้าทายตลอด 6 ปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ อาเดิร์น คิดว่าได้เวลาที่ต้องลงจากตำแหน่งนี้แล้ว
โดยอาเดิร์นจะก้าวลงจะตำแหน่งหัวหน้าพรรคแรงงานภายในวันที่ 7 ก.พ.นี้ และจะสรรหาตัวแทนคนใหม่เพื่อรับตำแหน่งนายกฯ ก่อนที่จะถึงการเลือกตั้งทั่วไปของนิวซีแลนด์ในวันที่ 14 ต.ค.
นอกจากนั้น อาเดิร์นยังกล่าวว่า เธอได้ใช้เวลาพิจารณาถึงอนาคตในตำแหน่งนี้ตลอดช่วงฤดูร้อน
ฉันหวังที่จะเจอสิ่งที่ทำให้ฉันอยากทำงานนี้ต่อไป
แต่เสียใจที่ต้องบอกว่าฉันไม่เจอเลย
และฉันไม่อยากจะสร้างความเสียหายให้แก่นิวซีแลนด์อีกต่อไป
นอกจากจะเป็นผู้นำรัฐบาลนิวซีแลนด์ที่มีอายุน้อยที่สุด ด้วยอายุ 37 ปี ขณะที่เข้ารับตำแหน่งนายกฯ ในปี พ.ศ.2560 อาเดิร์นยังเป็นผู้นำหญิงคนที่ 2 ของโลกที่ให้กำเนิดบุตรขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ อีกด้วย
โดยผู้นำหญิงคนแรกของโลกที่ให้กำเนิดบุตรขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ คือ นางเบนาซีร์ บุตโต นายกฯ ปากีสถาน
อาเดิร์น นำพานิวซีแลนด์ผ่านวิกฤตต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์กราดยิงในมัสยิดเมืองไครสต์เชิร์ช การปะทุของภูเขาไฟเกาะไวท์ โดยเฉพาะการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่่ผ่านมา ที่ทำให้เธอได้รับการชื่นชมจากทั่วโลก ถึงนโยบายที่ใช้ควบคุมและจัดการกับประชากรนิวซีแลนด์
อาเดิร์นชนะการเลือกตั้งทั่วไปอีกครั้งในปี พ.ศ.2563 แต่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ความนิยมในตัวอาเดิร์นนั้นลดลง การลาออกจากตำแหน่งของอาเดิร์นนั้น เธอกล่าวว่าไม่ได้เป็นเพราะว่า เธอคิดว่าเมื่อถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่แล้ว พรรคแรงงานจะไม่ชนะการเลือกตั้ง
เธอยังคงเชื่อมั่นว่าพรรคแรงงานจะยังคงสามารถจัดตั้งรัฐบาลในสมัยหน้าได้
เพียงแต่ต้องการผู้นำคนใหม่ที่ไม่ใช่เธอแล้วเท่านั้น
แกรนท์ โรเบิร์ต รองหัวหน้าพรรคแรงงาน กล่าวว่าการลงคะแนนเสียงเลือกผู้นำคนใหม่มาแทน อาเดิร์น ที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์นี้ ผู้ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งนายกฯ จะต้องได้รับคะแนนเสียงจากสมาชิกในพรรคมากกว่า 2 ใน 3 จึงจะขึ้นเป็นนายกฯ คนใหม่ของนิวซีแลนด์ได้
ขณะที่ แอนโทนี อัลบานีส นายกฯ ออสเตรเลีย กล่าวชื่นชม นายกฯ นิวซีแลนด์ บนทวิตเตอร์ว่าเป็นผู้นำที่มีความเห็นอกเห็นใจ เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมาย
Twitter : Anthony Albanese
Twitter : Anthony Albanese
ที่มา : BBC